ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ข้อมูล หรือ ดาต้า เป็นอาวุธหลักของการทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล เมื่อใดก็ตามที่แบรนด์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นรอยเท้าบนโลกดิจิทัล (Digital Footprint) โดยข้อมูลทั้งหมดที่แบรนด์ได้จัดเก็บมานั้น จะถูกนำไปวิเคราะห์ และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางด้านการตลาดและเพื่อความง่ายต่อการจัดเก็บข้อมูลในการนำไปออกแบบเพื่อกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด
นักการตลาดออนไลน์ส่วนใหญ่จะเลือกใช้งานเทคโนโลยี ที่เรียกว่า คุกกี้ของบุคคลที่สาม (Third-Party Cookies) เป็นหลัก มาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ ซึ่ง Third Party Cookies สามารถสร้างประโยชน์ได้มากมาย ตัวอย่างเช่น การวางแผนการลงโฆษณาสื่อดิจิทัลให้เจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น หรือการนำข้อมูลผู้บริโภคไปวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละคนมากขึ้น เป็นต้น
ทั้งนี้ 3rd-party cookie ที่ว่านี้ ก็คือ ไฟล์คุกกี้ที่สร้างขึ้นมาเพื่อบันทึกข้อมูลของผู้ใช้ ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งเราส่วนใหญ่จำเป็นต้องกดยอมรับเพื่อให้การท่องเว็บดำเนินได้ต่อ โดยข้อมูลที่ถูกบันทึกนี้จะสามารถแบ่งปันกันได้ ไม่ว่าจะแบรนด์ ธุรกิจ หรือเว็บไซต์ใดๆ ที่ต้องการใช้ได้อย่างอิสระ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการเก็บข้อมูลรวมถึงการนำข้อมูลดาต้าไปใช้นั้นไม่ได้ง่ายอีกต่อไป เนื่องจากมีข้อจำกัดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในประเทศไทยกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
สิ่งนี้ส่งผลให้ยุคนี้เป็นยุคปลอดคุกกี้ (Cookieless) ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างความท้าทายให้แก่ผู้ประกอบการทุกราย เนื่องจากการระบุตัวตนของผู้ใช้งานผ่านโลกออนไลน์ และการหาความสนใจของผู้บริโภคทำได้ยากกว่าเดิม ส่งผลให้การทำการแบ่งกลุ่มตลาดและการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (segment targeting) และการทำโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจงรายเป้าหมาย (Ad Personalization) ยากขึ้นกว่าเดิมตามไปด้วย
สำหรับบริษัท อินนิตี้ ดิจิทัล มีเดีย ประเทศไทย จำกัด (Innity Digital Media Thailand) ผู้นำทางด้านการให้บริการสื่อโฆษณาออนไลน์ (Online advertising) แบบครบวงจร ที่ปัจจุบันมีสาขากระจายอยู่หลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้มีการเตรียมความพร้อมคิดหาโซลูชั่นให้กับเรื่องนี้มาซักระยะแล้ว โดยทางอินนิตี้ มีการใช้รูปแบบการโฆษณาอัจฉริยะ (Intelligent ads) ซึ่งหมายถึงโฆษณาแบนเนอร์ แบบที่สามารถตอบสนองผู้ชมสื่อได้ (interactive mode) ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเก็บข้อมูล และเข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมถึงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ปรับแต่งได้ในตำแหน่ง เวลา และบนแพลตฟอร์มที่เหมาะสม และ อินนิตี้ยังได้รับรางวัล TAG Brand Safety และ Anti-Fraud Certification จากการเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีโฆษณา (Ad Tech) ที่มีระบบจัดการการทุจริตทุกรูปแบบในโฆษณาออนไลน์ จึงเป็นการการันตีคุณค่าหลักขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับการทำโฆษณาที่น่าเชื่อถือและเป็นสื่อที่ปลอดภัย ดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักสากลได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้อินนิตี้ ยังมีการใช้ KOL network ที่แข็งแกร่งภายใต้ชื่อ "Passionation" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2562 โดยแพลตฟอร์มนี้มีทั้งฐานข้อมูลบนเว็ปไซต์และบนแอปพลิเคชันที่เป็นศูนย์รวมอินฟลูเอนเซอร์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ จุดประสงค์ คือ เพื่อตอบสนองความต้องการของแบรนด์ที่มีโจทย์ลงลึกใน insight ชีวิตคนสมัยใหม่พร้อมการทำแคมเปญและคอนเทนต์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้เป็นการช่วยตอกย้ำวิสัยทัศน์ของอินนิตี้ ว่าเป็นบริษัทซึ่งสร้างโอกาสและเทรนด์ใหม่ ๆ ในการทำการตลาดตลอดเวลา รวมทั้งพัฒนาสื่อโฆษณาให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้ามากขึ้นในยุคสมัยใหม่และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว