แซน วิศาพัช รับโกรธโมโหลุง.. พูดจาเหยียดเพศ จิตใจคับแคบ เผย 5 คนบนเรือเตรียมมหกรรมแจ้งความกลับ ไม่มีใครยอม หลังทนโดนด่ามานาน 3 เดือน แต่ไม่ฟ้องประชาชนแซนให้อภัย 100%
เวลา 15.00 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2565 นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ เเซน พร้อมกับ นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะดำเนินการแจ้งความกลับ หนิง ปณิตา เนื่องจากพบว่าสิ่งที่อีกฝ่ายแจ้งความกล่าวหาว่าตนพูดหมิ่นประมาทไม่มีมูลความจริง และอีกฝ่ายควรเลือกทนายที่ละเอียดรอบคอบกว่านี้ โดยคู่กรณีแจ้งความว่า ตนกล่าวถึงชื่อเขานำหน้าประโยคที่พูด ยืนยันว่าตลอดการให้สัมภาษณ์วันนั้นไม่เคยเอ่ยชื่อ โดยมีคลิปข่าวเป็นหลักฐานสามารถถอดเทปฟังได้ เบื้องต้นน่าจะเป็นข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหารู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่มาแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 173
การแจ้งความตนโดยที่ไม่มีมูลความจริงทำให้เสียหาย วันนี้ตนต้องถูกพิมพ์ลายนิ้วมือตกเป็นผู้ต้องหาซึ่งไม่สนุกเลย และอีกฝ่ายเองเป็นถึงผู้จัดละคร หากทำผิดควรกล้ายอมรับผิดมากกว่าออกมาทำแบบนี้ ส่วนถ้าอีกฝ่ายจะฟ้องตนกลับอีกรอบก็ไม่กังวล เพราะตนทำทุกอย่างถูกต้องตามหลักฐานที่มี ใครอยากจะทำอะไรตนห้ามไม่ได้ แต่จะปกป้องสิทธิของตัวเอง
ส่วนกรณีหลังวันที่ 23 มิถุนายน คนบนเรือจะมีมหกรรมแจ้งความกลับนั้น แซน บอกว่า ตอนนี้คนบนเรือมีการพูดคุยกันอยู่เรื่อย ๆ ตามประสาเพื่อน เมื่อถามว่ามีการคุยกันเรื่องที่บุคคลต่าง ๆ ออกมาพูดถึงเรื่องบนเรือหรือวิจารณ์คนบนเรือด้วยหรือไม่ แซนเผยว่า มีแน่นอน และขอให้รอดูพวกตนขอปรึกษากันก่อนว่าจะมีการจัดแถลงข่าวเลยหรือไม่ เพราะทั้ง 5 คน คงไม่มีใครยอม ทนโดนด่ามานาน 3 เดือน ตอนนี้กำลังพิจารณาดำเนินคดีเบื้องต้น 3-4 คน เป็นคนที่อยู่ในกระแส ขอให้รอดู แต่กับชาวเน็ตจะไม่ดำเนินคดี เพราะถือว่ารับฟังข้อมูลข่าวสารจากสื่อไม่สามารถแยกเฟคนิวส์ได้ แซนให้อภัย 100%
นอกจากนี้นายวิศาพัช ได้กล่าวถึงลุงคนหนึ่งว่า เป็นถึงหัวหน้าชมรม ทำไมจึงมีจิตใจคับแคบ โดยเฉพาะเรื่องการเหยียดเพศ ตนไม่เข้าใจว่า เคยไปทำอะไรให้อีกฝ่ายเกลียดชัง ถึงต้องดูหมิ่นเหยียดหยามเพศตนตลอด และทำไมสังคมถึงยังปล่อยให้คนแบบนี้มาทวงถามหาความยุติธรรม ซึ่งเวลาตนถูกพูดเหยียดเพศ ก็โกรธและโมโห บางครั้งก็น้ำตาไหล ก็ได้แต่ปล่อยไป เพราะว่าห้ามปากใครไม่ได้ และหากจะอ้างว่ามีหลักฐานจริง ๆ ก็ขอให้เปิดออกมา การที่เพื่อนเสียชีวิตก็เสียใจมากพอแล้ว แม้ไม่ได้มาแสดงออกสื่อ เพราะทุกคนมีบุคลิกแตกต่างกัน ขอให้อย่าด่วนตัดสินแล้วเอามาด่า ตนไม่มีความจำเป็นต้องโกหก อยากให้คิดวิเคราะห์ด้วยว่าคนบนเรือมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น
ส่วนเรื่องที่อ้างว่ามีหลักฐานเป็นรูปภาพกองเลือดที่บริเวณหัวเรือ ถ้ามีจริงก็ขอให้เอามาเปิดให้ดูเลย ไม่มีใครฟ้อง ทุกคนอยากเห็น แต่ยืนยันว่าสังคมที่แซนอยู่ไม่มีเรื่องแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะมาฆ่ากันทิ้งน้ำตามที่ถูกกล่าวอ้าง กรณีเรื่องการใช้ยากดประสาท ก็ไม่เป็นความจริง ลุงคนนี้ออกมาพูดหลายเรื่องแล้ว ทำเหมือนกับว่าเอากล้องวงจรปิดมาติดบนเรือลำ หรือว่ามานั่งอยู่ด้วยกัน ส่วนเรื่องการล้างเรือก็ยืนยันว่าไม่มี
ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกคนเห็นใจคุณแม่มากกว่า เพราะคุณแม่สูญเสียลูก ก็เสียใจมากพอแล้ว คุณแม่อาจจะไปฟังคนอื่นทำให้ไม่รู้จะเชื่ออะไรใคร เพราะว่าคุณแม่ก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก ดังนั้นอย่าไปว่าคุณแม่ ส่วนเรื่องของบังแจ็คที่ออกมาบอกว่ามีหลักฐานมากมายพร้อมกับเคลื่อนไหวในโซเชียลนั้นตนไม่ให้ค่า เพราะไร้สาระ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
