ดราม่าคนแปลกหน้าเข้าบ้านขอดูรองเท้า เจ้าของบ้านผวา หวั่นเป็นมิจฉาชีพ ล่าสุดอีกฝั่งชี้แจงสาเหตุขอดูรองเท้าเพราะกำลังตามหาน้องสาว แต่โดนข้อหาบุกรุก โวยสื่อไม่เซ็นเซอร์หน้า เครียดจัดโดนแบบนี้ทั้งที่ทุกข์ใจ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปกล้องวงจรปิดบ้านหลังหนึ่งใน จ.ระยอง ขณะนั้นมี ยายแปล (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี เจ้าของบ้านเฝ้าอยู่ จู่ ๆ มีคนเปิดประตูรั้วเดินเข้ามาในบ้านและส่งเสียงว่า "ขอดูรองเท้าหน่อยนะจ๊ะ ขอดูรองเท้าหน่อย" ก่อนจะเดินเข้ามาชะเง้อมองบริเวณบ้าน จากนั้นมีรถเก๋งขับมาจอดหน้าบ้าน มีผู้ชาย 2 คน และผู้หญิง 2 คน เดินลงมาจากรถมายืนอยู่หน้าบ้าน หญิงคนแรกก็ยังเดินดูบริเวณบ้าน ก่อนจะกลับไปคุยกับกลุ่มรถเก๋งที่มาด้วยกัน
โดย ยายแปล เจ้าของบ้าน เล่าว่า เขาเอารถยนต์มากัน 2 คัน คันหนึ่งจอดข้างบ้าน อีกคันมาจอดหน้าบ้าน ตอนนั้นยายกำลังเลี้ยงหลานอยู่ ยายก็นึกว่าเขาเป็นครู เขาบอกว่ามาหารองเท้า ขอดูรองเท้าหน่อย แล้วก็บอกว่าไม่มี ยืนยันว่าไม่รู้จักคนที่เขามาในบ้าน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ต่อมา หลานสาวของยายกลับบ้านมาทราบเรื่อง จึงเปิดดูกล้องวงจรปิด พร้อมเผยว่า ขณะเกิดเหตุคนในบ้านไปทำงานกันหมด เหลือแค่คุณยายอยู่กับหลาน เมื่อเปิดกล้องดูก็ไม่ทราบว่าคนที่เข้ามาในบ้านนั้นเป็นใคร เขาเดินเข้าไปทำท่าหารองเท้า แต่คงไม่น่าใช่ เพราะตอนเดินเข้ามาดูบ้านไม่มีใคร มีการส่งสัญญาณให้กันด้วย บ้านก็ไม่ได้ล็อกกลอนประตู ทางเจ้าของบ้านจึงเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอันตราย
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
โอละพ่อ ที่แท้น้องสาวหาย ขออนุญาตแล้วแต่สื่อสารผิดพลาด เรื่องเลยเถิดถึงขั้นแจ้งความบุกรุก
ล่าสุด วันที่ 16 สิงหาคม 2565 เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่ง ได้ออกมาเผยเรื่องราวอีกด้านว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่น้องสาวของเธอหายออกไปจากบ้าน และจีพีเอสปักหมุดบริเวณนั้น คุณย่าและครอบครัวของตนจึงมาตามหาน้อง และมีการขออนุญาตคุณยายเจ้าของบ้าน ไม่ได้ดุ่ม ๆ เข้าไปจะขอดูรองเท้า แต่คาดว่ามีการสื่อสารกันผิดพลาด ทางเจ้าของบ้านเลยมองว่าเป็นการบุกรุก เรื่องเลยเถิดจนมีการแจ้งความ
เมื่อถามว่าหากต้องการตามหาคนหาย เหตุใดจึงไม่แจ้งความ เจ้าของโพสต์บอกว่า เนื่องจากน้องของเธอหายไปช่วงเวลา 18.00 และครอบครัวไปแจ้งความช่วง 23.00 แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ทางครอบครัวจึงต้องตามหากันเองจนถึงเช้า และล่าสุด ทางครอบครัวได้มีการเจรจากับคุณยายเจ้าของบ้าน ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วด้วย
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน