สาวติดกล้องรูเข็ม จับได้แม่แอบแซ่บกับสามีในบ้าน ไม่โกรธ ไม่ร้องไห้ กลับยิ้มออกมา บอกสามีเยี่ยมมาก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ความซื่อสัตย์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในความสัมพันธ์ ไม่เพียงแค่สัมพันธ์รักระหว่างชายหญิง แต่ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ทว่าสำหรับหญิงสาวรายนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอคล้ายจะเป็นเรื่องโลกสลาย เมื่อพบว่า คนที่รักและไว้ใจมากทั้งสามีและแม่ แอบหักหลังเธอพร้อมกัน..
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 เว็บไซต์ ETtoday เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ บนโซเชียลมีเดียของไต้หวัน ได้แชร์เรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ โดยหญิงสาวเผยว่า พ่อและแม่ของเธอหย่ากัน หลังจากนั้นแม่ก็มีแฟนใหม่ และร่วมกันตั้งบริษัทขึ้นมาด้วยกัน เธอจึงไปพบกับลูกชายของแฟนแม่ ทั้งคู่ได้รู้จักกันและสุดท้ายก็ได้แต่งงานกัน จากการจัดการของผู้ใหญ่ ซึ่งตัวเธอและสามีก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
หลังจากที่หญิงสาวแต่งงานแล้ว เธอยังคงอาศัยและทำงานอยู่ที่เดียวกับแม่ บ้านที่อยู่เป็นตึกอาคาร ชั้น 1 เป็นบริษัทโรงงานผลิต ชั้น 2 เป็นสำนักงาน ส่วนชั้น 3 และชั้น 4 เป็นที่พักอาศัย แต่ในบางครั้งในขณะที่เธอทำงานชั้นล่างเสร็จ กำลังจะขึ้นมาชั้นบน เธอก็สังเกตเห็นแม่ของเธอออกมาจากห้องของสามี
หญิงสาวจึงแอบไปติดต่อตัวแทนของบริษัท Rieter Credit Information Agency ให้มาติดตั้งกล้องรูเข็มที่บ้านเพื่อค้นหาความจริง หลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็กระจ่างชัด เมื่อเธอไปตรวจสอบภาพที่บันทึก ก็ได้เห็นว่าแม่ของเธอแอบไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับสามีของเธอในห้อง และเมื่อเสร็จกิจก็นอนเปลือยเปล่าอยู่ด้วยกันบนเตียง ทางตัวแทนติดตั้งกล้องคิดว่าเมื่อหญิงสาวได้เห็นภาพหลักฐานจะเกิดอาการโกรธหรือร้องไห้ แต่ผิดคาด
หญิงสาวยิ้มออกมาและพูดว่า "ดูสิ สามีของฉันเยี่ยมมาก" ซึ่งทางตัวแทนเชื่อว่า เธอคงสงสัยมานานและวันนี้ปริศนาก็ถูกคลี่คลาย เธอคงรู้สึกสิ้นหวัง "จนแสดงอารมณ์ขันที่ไร้สาระ" เข้ามาแทน และเพื่อป้องกันตัวเองจากการเสียหลักครั้งใหญ่ในชีวิต
ในท้ายที่สุด หญิงสาวเชื่อว่า แม่เป็นคนดูแลชีวิตเธอมาจนถึงการแต่งงาน ทำให้เธอรู้สึกว่า เธอเป็นหนี้แม่ ดังนั้นครั้งนี้เธอจึงคิดว่าเป็นการชดใช้ จึงไม่มีการฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยแต่อย่างใด เธอต้องการเพียงยุติความสัมพันธ์ ได้แยกทางกับสามีไปอย่างสงบ และสุดท้ายทั้งสองก็หย่ากันอย่างราบรื่นจริง ๆ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแม่หลังจากนั้น ไม่ทราบแน่ชัด
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday