พนักงานบริษัทลาป่วยยาว 15 ปี รับค่าจ้างฟรี ๆ ปีละ 2 ล้าน แต่ยังไม่พอใจ ลุยฟ้องบริษัทเหตุไม่ขึ้นเงินให้
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซนทรัล เผยเรื่องราวคดีความชวนอึ้ง เมื่อพนักงานของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เกิดความไม่พอใจลุกขึ้นมาฟ้องบริษัท เหตุเพราะไม่ได้รับการขึ้นเงินเดือน ภายหลังจากลาป่วยโดยไม่ได้ทำงานมาเป็นเวลานานถึง 15 ปี และยังได้รับค่าจ้างตามปกติ
เอียน คลิฟฟอร์ด เป็นพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ของบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยเขาได้รับเงินค่าจ้างปีละมากกว่า 67,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนทุพพลภาพระหว่างเขากับนายจ้าง แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ยื่นฟ้องทางนายจ้างในข้อหา "เลือกปฏิบัติต่อผู้พิการ" โดยอ้างว่า ว่าเงินค่าจ้างของเขาไม่มากเพียงพอต่ออัตราเงินเฟ้อ
เพื่อยุติข้อขัดแย้ง ในที่สุดทางบริษัท IBM จึงเสนอ "ข้อตกลงประนีประนอม" ให้กับทางคลิฟฟอร์ด ทำให้เขาได้เข้าร่วมแผนทุพพลภาพด้วยเงินค่าจ้างที่ทางบริษัทรับประกัน และไม่มีภาระผูกพันในการทำงานจนกว่าจะหายป่วย เกษียณอายุ หรือเสียชีวิต ตามแผนนี้ เขาจะได้รับเงิน 75 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนตามที่ตกลงกันไว้คือประมาณ 54,028 ปอนด์ หรือคิดเป็น 67,325 ดอลลาร์ (ราว 2.3 ล้านบาท) ซึ่งรวมถึงเงินค่าจ้างสำหรับวันหยุด
ดังนั้น เมื่อคลิฟฟอร์ดลาป่วยมาตั้งแต่ปี 2551 ตลอดช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา เขาจึงไม่ได้ทำงานใด ๆ ให้กับบริษัทเลย แต่แม้หลายคนจะมองว่าข้อตกลงดังกล่าวนั้นดีงาม แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม และพยายามที่จะฟ้องร้องทางบริษัทอีกครั้งเพื่อขอขึ้นเงินค่าจ้าง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก
"จุดประสงค์ของแผนทุพพลภาพ คือการให้หลักประกันแก่พนักงานที่ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งแผนดังกล่าวไม่สามารถเป็นผลได้ หากจำนวนเงินที่จ่ายนั้นถูกแช่แข็งเอาไว้ตลอดกาล" คลิฟฟอร์ดกล่าวในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาไม่เห็นเช่นนั้น
พอล เฮาส์โก ผู้พิพากษาแย้งว่า "แม้ว่ามูลค่ากว่า 50,000 ปอนด์ต่อปีจะลดลงครึ่งหนึ่งในช่วง 30 ปี แต่ก็ยังเป็นประโยชน์อย่างมาก ถือเป็นแผนการช่วยเหลือที่ดีไม่น้อย" และท้ายที่สุดศาลก็ยกฟ้องคดีดังกล่าวไป
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก อ็อดดิตี้เซนทรัล