เด็กหนุ่มวัย 16 ปี หัวนักธุรกิจ โดดเรียนแอบทำธุรกิจ นั่งประชุม Zoom ในห้องน้ำ ตั้งบริษัทหาเงินมากกว่าได้ 700 ล้าน ไม่ธรรมดา
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @ericzhu105
ช่วงวัยรุ่นสมัยเรียน ในขณะที่เด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ยุ่งอยู่กับเรื่องการบ้าน งานกิจกรรม หรือใช้เวลาสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อน แต่สำหรับเด็กหนุ่มวัย 16 ปี รายนี้น่าทึ่งเป็นอย่างมาก เมื่อเขาใช้เวลาศึกษาและเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองจากในห้องน้ำของโรงเรียน จนประสบความสำเร็จหาเงินได้มากมายกว่าหลายร้อยล้าน
วันที่ 12 สิงหาคม 2566 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย เผยเรื่องราวของ เอริค ชู วัย 16 ปี จากรัฐอินเดียนา ในสหรัฐอเมริกา พ่อแม่ของเขาเป็นชาวเอเชียที่อพยพไปตั้งถิ่นฐานที่สหรัฐฯ พ่อแม่ของเขาเข้มงวดมาก อยากให้เขาตั้งใจเรียนและเป็นหมอ เขาจึงถูกสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดียโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เอริคค่อนข้างจะมีพรสวรรค์ในการทำธุรกิจ ตั้งแต่อายุ 13 ปี เขาใช้โน้ตบุ๊กส่วนตัวแอบเรียนรู้และฝึกเขียนโปรแกรมจากอินเทอร์เน็ต เพื่อใช้ทำธุรกิจในห้องน้ำที่โรงเรียนมัธยม
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @ericzhu105
ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ เอริคก็เริ่มมีงานยุ่งมากกว่าเด็กผู้ชายรุ่นเดียวกัน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแอบไปซ่อนตัวในห้องน้ำ ไม่ใช่ทำธุระส่วนตัว แต่เพื่อติดต่อทำธุรกิจ และดำเนินการประชุม Zoom กับนักลงทุน เอริคเผยว่า ลูกค้าเคยเห็นเขานั่งอยู่บนโถส้วมเพื่อประชุมผ่านวิดีโอ และมีเสียงกดชักโครก เป็นครั้งคราว บางคนเข้าใจผิดคิดว่าเขาท้องเสียบ่อย ๆ และถึงขนาดเขียนจดหมายแสดงความเป็นกังวลให้เขาดูแลสุขภาพ
"ฉันทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับงานของบริษัท และทุ่มเททุกอย่างให้กับการเข้าห้องน้ำด้วย ฉันแก้ตัวกับคุณครูว่าปวดท้อง เพื่อที่จะได้ไปประชุม ฉันทำงานเต็มเวลา ฉันพยายามอย่างเต็มที่ในห้องน้ำนั้น" เอริค กล่าว
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @ericzhu105
ต่อมา เอริคและเพื่อนอีก 2 คนได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Aviato แพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการระดมทุนสำหรับสตาร์ตอัพ ซึ่งเขาเป็น CEO ฐานข้อมูลปัจจุบันอ้างว่า มีบริษัทสตาร์ตอัพ 11.8 ล้านแห่งจดทะเบียน และมูลค่าบริษัทของเอริคก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้มีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 700 ล้านบาท) ไม่เพียงเท่านั้นยังดึงดูด บริษัทของเขายังได้รับความสนใจจากชุมชนผู้ประกอบการชาวอเมริกัน ให้เงินทุน 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 35 ล้าน)
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @ericzhu105
ทว่า สิ่งที่น่าปวดหัวที่สุดของเอริคในขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องการทำธุรกกิจ แต่เป็นเรื่องพ่อแม่ของเขาที่ยังคงต้องการให้เขาเป็นหมอ แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่ท้ายที่สุดเขาก็คิดว่าจะไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตามที่ครอบครัวคาดหวังก่อน แต่เขาไม่สามารถรับปากได้ว่าจะเลิกเรียนกลางคันหรือไม่
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก มิเรอร์มีเดีย, mint