เปิดชีวิต เศรษฐีดวงเฮง ถูกหวยหมื่นล้าน ก่อนชีวิตดำดิ่งสู่หายนะ จนนึกเสียใจน่าจะฉีกลอตเตอรี่ทิ้งไปตั้งแต่แรก
ทุกคนที่เคยซื้อลอตเตอรี่คงเคยจินตนาการว่าชีวิตจะเป็นยังไง
หลังถูกรางวัลใหญ่ แต่จะมีสักกี่คนที่ฝันเป็นจริง
แต่ถึงอย่างนั้นการถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่อาจกลายเป็นฝันร้ายสำหรับผู้โชคดีจำนวนไม่น้อย
จนถึงขั้นที่บางคนหวังเลยว่าจะไม่ได้ถูกรางวัลนั้นตั้งแต่แรก
เพราะสารพัดโชคร้ายที่ต้องพบเจอหลังได้ลาภใหญ่
นอกเหนือไปจากความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่แปรเปลี่ยน ชีวิตครอบครัวพังทลาย นำมาสู่ความล่มสลายในชีวิต บางคนยังอาจตกเป็นเป้าถูกคุกคาม แต่หากจะมีใครสักคนที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่ที่เคราะห์ร้ายที่สุด คนคนนั้นก็น่าจะเป็น แจ็ค วิทเทกเกอร์ ชายอเมริกัน ที่ถูกรางวัล 315 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.08 หมื่นล้านบาท) ในวันคริสต์มาสเมื่อ 21 ปีที่แล้ว
โดยวันที่ 23 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่า เรื่องราวทุกอย่างเริ่มขึ้นในวันคริสต์มาสปี 2545 ตอนที่ แจ็ค วิทเทกเกอร์ ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง จากรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย สหรัฐฯ ถูกรางวัลแจ็กพอตของ Powerball ซึ่งมีเงินรางวัลสูงถึง 315 ล้านดอลลาร์ แต่แทนที่เขาจะเลือกรับเงินเป็นรายงวดซึ่งจะได้เงินเต็มจำนวน เขากลับขอรับเงินในครั้งเดียว ซึ่งเมื่อหักภาษีแล้วจะเหลือเพียง 113 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.88 พันล้านบาท)
เนื่องจากตอนนั้น มันเป็นแจ็กพอตรางวัลใหญ่สุดที่มีผู้ชนะด้วยสลากเพียง 1 ใบในสหรัฐฯ ทำให้แจ็คกลายมาเป็นคนดังทันที อย่างไรก็ตาม ต่อมาชีวิตของเขากลับถูกรุมเร้าด้วยเรื่องฉาว การฟ้องร้อง ตลอดจนต้องเผชิญโศกนาฎกรรมในครอบครัว และยังมีคนพยายามวางยาเขา จนจุดหนึ่งแจ็คมักจะกล่าวว่า เขาหวังว่าตัวเองจะฉีกลอตเตอรี่นั้นทิ้งไปซะ
รายงานเผยว่า ในตอนที่ถูกรางวัล แจ็ค ซึ่งขณะนั้นอายุ 55 ปี จัดว่าเป็นเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่แล้วถึง 17 ล้านดอลลาร์ (ราว 584 ล้านบาท) เขาเคยสาบานว่าการถูกแจ็กพอตนี้จะไม่ทำให้เขาเปลี่ยนไป แต่แค่ 1 สัปดาห์หลังจากนั้น เขาก็ไปปรากฏตัวในคลับเปลื้องผ้าใกล้บ้าน พร้อมนำเงินสด 50,000 ดอลลาร์ (ราว 1.7 ล้านบาท) มาฟาดใส่บาร์ จนผู้จัดการต้องขอให้เขานำเงินกลับไป
ไม่กี่เดือนต่อมา แจ็คที่เริ่มบ้าบิ่นขึ้นกลับไปคลับเปลื้องผ้าอีกครั้ง พร้อมโอ้อวดว่ามีเงิน 545,000 ดอลลาร์ (ราว 18.7 ล้านบาท) ซ่อนอยู่ในรถที่เขาจอดทิ้งไว้ ทำให้พนักงานในคลับ 2 คนแอบวางยาใส่เครื่องดื่มของเขา ก่อนจะบุกไปทุบรถเพื่อขโมยเงินไป แต่เคราะห์ยังดีที่ต่อมา เงินจำนวนดังกล่าวถูกพบอยู่ใกล้ถังขยะ
อีกเพียง 5 เดือนต่อมา รถของเขาก็ถูกทุบและขโมยเงินไปอีก 200,000 ดอลลาร์ (ราว 6.87 ล้านบาท) ขณะจอดไว้หน้าคลับเปลื้องผ้าแห่งเดิม รวมถึงในปี 2561 ก็ยังมีคนทุบรถของเขาที่จอดทิ้งไว้หน้าบ้าน เพื่อขโมยเงิน 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3.43 ล้านบาท)
ไม่เพียงเท่านั้น แจ็คยังเริ่มมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในย่านที่เขาอาศัย โดยครั้งหนึ่งขณะนั่งดื่มเหล้าที่บาร์แถวบ้าน อยู่ ๆ เขาก็โพล่งออกมาเสียงดัง ขอใช้เงินแลกเซ็กส์กับบาร์เทนเดอร์สาว และยังเสนอเงินอีก 10,000 ดอลลาร์ (ราว 343,000 บาท) ให้กับบาร์เทนเดอร์สาวอีกคน เพื่อให้เธอสวมชุดชั้นในให้เขาดู แต่บาร์เทนเดอร์ทั้ง 2 คนปฏิเสธ
ท่ามกลางสภาพชีวิตที่ดำเนินไปไม่สวยนัก แจ็คยังต้องพบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับหลานสาววัย 17 ปี ที่เป็นแก้วตาดวงใจของเขา เมื่อเธอถูกพบเป็นศพหุ้มด้วยพลาสติก อยู่ท้ายรถคันหนึ่งที่จอดทิ้งไว้ จากสาเหตุที่ไม่เปิดเผย และก่อนหน้านั้นยังพบว่ามีเพื่อนของหลานคนนี้มาเสียชีวิตในบ้าน เพราะเสพยาเกินขนาดด้วย
บ็อบ รูฟัส ชี้ว่า แจ็คเปย์เงินให้อย่างบ้าคลั่งกับหลานสาวคนนี้ ซึ่งนั่นกลายเป็นสิ่งดึงดูดคนไม่ดีมากมาย โดยเด็กสาวได้รับเงินจากแจ็คสัปดาห์ละ 2,000 ดอลลาร์ (ราว 68,000 บาท) แถมเขายังซื้อรถอีก 4 คันเป็นของขวัญให้เธอด้วย
นอกเหนือจากพฤติกรรมฉาว แจ็คยังชอบเล่นการพนัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่พาชีวิตเขาจมดิ่งสู่หายนะ เขาต้องต่อสู่คดีกับ Caesars Atlantic City ผู้ให้บริการคาสิโน หลังจากที่เช็กมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 51 ล้านบาท) ที่เขาจ่ายไปเกิดเด้ง จนกระทั่งในปี 2550 เขาจึงยอมรับว่าตัวเองถังแตก ไม่มีเงินจ่าย
ชีวิตของเขาดูเหมือนจะสงบสุขดีในไม่กี่ปีหลังจากนั้น แต่แล้วในปี 2559 บ้านของแจ็คก็ถูกไฟไหม้วอด
สิ่งต่าง ๆ ที่เขาต้องพบเจอนั้น คนภายนอกอาจคิดว่าความผิดพลาดของแจ็คเริ่มตั้งแต่การขอรับเงินรางวัลแจ็กพอตเป็นก้อนเดียว ทำให้ได้เงินน้อยลงกว่าครึ่ง แต่สำหรับแจ็ค เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำพลาดที่สุด ก็คือไม่ยอมฉีกลอตเตอรี่นั้นเป็นชิ้น ๆ แทนที่จะนำไปขึ้นรางวัล
ครั้งหนึ่งเขาเคยยอมรับกับสำนักข่าว AP ว่า "ผมคงจะถูกจดจำในฐานะคนวิกลจริตที่ถูกรางวัลเท่านั้น"
ทั้งนี้ แจ็คเสียชีวิตลงในปี 2563 ขณะอายุ 72 ปี หลังเผชิญเรื่องอื้อฉาวและความโชคร้ายต่าง ๆ ตลอด 17 ปีหลังถูกลอตเตอรี่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าเขาจะหมดเงินไปกับเรื่องแย่ ๆ แจ็คยังใช้เงินทำเรื่องดี ๆ เพื่อสังคมบ้างเช่นกัน เช่นการบริจาคเงินรางวัลบางส่วนให้กับองค์กรการกุศล รวมถึงก่อตั้งมูลนิธิเพื่อจัดหาอาหารและเสื้อผ้าให้แก่ครอบครัวที่มีรายได้น้อย
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible, New York Post
