เปิดคดีเดือดเกาหลีใต้ ดีเจสาวซิ่งเบนซ์ชนไรเดอร์ นิ่งดูดายไม่ยอมช่วย แคร์หมามากกว่าคน สุดท้ายเหยื่อดับสลด สังคมประณามหนัก
รายงานจากเดอะโคเรียเฮรัลด์ ชี้ว่า เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสประณามจากสังคมเกาหลีใต้ รวมถึงทำให้ไรเดอร์จำนวนมากลุกฮือ ร่วมลงนามกว่า 1,500 คน ในเอกสารคำร้อง เพื่อยืนขอให้ทางสำนักงานอัยการกลางกรุงโซล ทำการสอบสวนคดีนี้อย่างรัดกุมและมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย พร้อมเปรียบคนที่เมาแล้วขับ ว่าไม่ต่างจากคนร้ายที่บุกมาอะวาดบนสถานที่ทำงานของพวกเขาด้วยอาวุธที่เป็นอันตราย
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.40 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น นางสาวอัน วัย 20 กว่าปี ซึ่งเป็นดีเจสาวประจำคลับท้องถิ่น ได้ขับขี่รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยความเร็ว โดยมีสุนัขนั่งอยู่บนตัก ก่อนจะพุงชนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของไรเดอร์ชายวัย 54 ปี ซึ่งหลังชนแล้วรถของเธอยังเคลื่อนที่ลากต่อไปอีกเป็นระยะทาง 100 เมตร กว่าจะจอดสนิท ขณะที่ไรเดอร์นั้นแม้จะมีคนนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ปรากฏว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เผยกับสื่อท้องถิ่นว่า
ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่เข้าใจถึงความรุนแรงของสถานการณ์
และยังนั่งกะพริบตาโดยอุ้มสุนัขไว้
ไม่ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งสิ้นแม้กระทั่งการโทร.
ตามเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน
ยังชาวเน็ตที่อ้างตัวเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ โพสต์ว่า หญิงสาวไม่มีการตอบสนองใด ๆ ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นความกลัวหรือความเศร้า เธอปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจที่เข้ามาแยกเธอออกจากสุนัข เธอพูดจาไม่ชัด และพยายามจะขอคุยกับแม่ทางโทรศัพท์
ในขณะที่ทางตำรวจไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ แต่ยูทูบเบอร์บางคนได้ออกมาเปิดโปงตัวตนของดีเจสาวบนโลกออนไลน์ ทำให้เธอต้องปิดบัญชีโซเชียลมีเดียเป็นไพรเวต ก่อนที่จะถูกทางตำรวจควบคุมตัวตามหมายจับ เมื่อศาลเล็งเห็นว่าเธอมีความเสี่ยงที่จะหลบหนี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบว่าดีเจสาวมีระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 0.08% ซึ่งมากพอจะทำให้เพิกถอนใบขับขี่ของเธอ ขณะที่ผลการตรวจยาเสพติดเบื้องต้นออกมาเป็นลบ ในส่วนของการดำเนินคดี ขณะนี้ดีเจสาวถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท ขับรถโดยประมาท ซึ่งอาจทำให้เธอเผชิญโทษจำคุก 3 ปี หรือถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต รวมถึงตำรวจจะพิจารณาตั้งข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมด้วย
อนึ่ง สื่อท้องถิ่นรายงานว่าไรเดอร์ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว และการจากไปของเขาก็ทำให้กลุ่มไรเดอร์ทั่วประเทศออกมารวมตัวเรียกร้อง ให้มีการสอบสวนคดีและเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP, Korea Joongang Daily, The Korea Herald
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หลายครั้งที่สังคมปรากฏคดีเกี่ยวกับการเมาแล้วขับ จนนำมาสู่การรณรงค์ตระหนักรู้พร้อมจี้ให้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด ไม่นานมานี้ในเกาหลีใต้ก็มีประเด็นเดือดระดับประเทศเกี่ยวกับการเมาแล้วขับเช่นกัน เมื่อดีเจสาวรายหนึ่ง ขับรถหรูซิ่งชนรถมอเตอร์ไซค์ของไรเดอร์ชายวัย 54 ปี เป็นผลให้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมีการเปิดเผยว่าหญิงสาวไม่ยอมให้ความช่วยเหลือใด ๆ แก่ผู้บาดเจ็บ แต่กลับเลือกที่จะกอดสุนัขของตัวเองอยู่เช่นนั้น ทั้งยังไม่ยอมให้ความร่วมมือใด ๆ กับทางตำรวจ รายงานจากเดอะโคเรียเฮรัลด์ ชี้ว่า เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสประณามจากสังคมเกาหลีใต้ รวมถึงทำให้ไรเดอร์จำนวนมากลุกฮือ ร่วมลงนามกว่า 1,500 คน ในเอกสารคำร้อง เพื่อยืนขอให้ทางสำนักงานอัยการกลางกรุงโซล ทำการสอบสวนคดีนี้อย่างรัดกุมและมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย พร้อมเปรียบคนที่เมาแล้วขับ ว่าไม่ต่างจากคนร้ายที่บุกมาอะวาดบนสถานที่ทำงานของพวกเขาด้วยอาวุธที่เป็นอันตราย
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.40 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น นางสาวอัน วัย 20 กว่าปี ซึ่งเป็นดีเจสาวประจำคลับท้องถิ่น ได้ขับขี่รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยความเร็ว โดยมีสุนัขนั่งอยู่บนตัก ก่อนจะพุงชนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของไรเดอร์ชายวัย 54 ปี ซึ่งหลังชนแล้วรถของเธอยังเคลื่อนที่ลากต่อไปอีกเป็นระยะทาง 100 เมตร กว่าจะจอดสนิท ขณะที่ไรเดอร์นั้นแม้จะมีคนนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ปรากฏว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สิ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้โกรธแค้น
คือคำให้การจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์
ที่ระบุว่าหญิงสาวปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือใด ๆ ต่อเหยื่อ
และยังไม่ยอมตรวจลมหายใจเพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์
ยังชาวเน็ตที่อ้างตัวเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ โพสต์ว่า หญิงสาวไม่มีการตอบสนองใด ๆ ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นความกลัวหรือความเศร้า เธอปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจที่เข้ามาแยกเธอออกจากสุนัข เธอพูดจาไม่ชัด และพยายามจะขอคุยกับแม่ทางโทรศัพท์
ในขณะที่ทางตำรวจไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ แต่ยูทูบเบอร์บางคนได้ออกมาเปิดโปงตัวตนของดีเจสาวบนโลกออนไลน์ ทำให้เธอต้องปิดบัญชีโซเชียลมีเดียเป็นไพรเวต ก่อนที่จะถูกทางตำรวจควบคุมตัวตามหมายจับ เมื่อศาลเล็งเห็นว่าเธอมีความเสี่ยงที่จะหลบหนี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบว่าดีเจสาวมีระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 0.08% ซึ่งมากพอจะทำให้เพิกถอนใบขับขี่ของเธอ ขณะที่ผลการตรวจยาเสพติดเบื้องต้นออกมาเป็นลบ ในส่วนของการดำเนินคดี ขณะนี้ดีเจสาวถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท ขับรถโดยประมาท ซึ่งอาจทำให้เธอเผชิญโทษจำคุก 3 ปี หรือถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต รวมถึงตำรวจจะพิจารณาตั้งข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมด้วย
อนึ่ง สื่อท้องถิ่นรายงานว่าไรเดอร์ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว และการจากไปของเขาก็ทำให้กลุ่มไรเดอร์ทั่วประเทศออกมารวมตัวเรียกร้อง ให้มีการสอบสวนคดีและเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP, Korea Joongang Daily, The Korea Herald