เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกและประเทศไทยอยู่ในช่วงขาลง ปัญหาการฉ้อโกง และหลอกลวงประชาชนในรูปแบบแชร์ลูกโซ่จะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2552 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ปัญหาการว่างงานจะเป็นวิกฤติมากขึ้น จึงอยากฝากผู้จบการศึกษาใหม่ หรือผู้สมัครงานหน้าใหม่
โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่จากต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาหางานในกรุงเทพฯ ระวังถูกหลอกจากแชร์สมัครงาน ที่จะหลอกลวงโดยติดประกาศรับสมัครงานตามเสาไฟฟ้า หรือตู้โทรศัพท์สาธารณะ เมื่อไปสมัครงานแล้ว จะหลอกนำเงินมาสมัครเป็นสมาชิก ซื้อผลิตภัณฑ์ หรือลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท โดยสัญญาจะจ่ายค่าตอบแทนสูง ในระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นจะถูกบังคับให้ขยายฐานสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้น
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ปลายปี 2550-2551 ดีเอสไอ ได้รับการร้องเรียนให้สอบสวนเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่หลายเครือข่ายและรับเป็นคดีพิเศษรวม 29 คดีมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท สรุปสำนวนส่งฟ้องศาลไปแล้ว 14 คดี โดยรูปแบบแชร์ลูกโซ่ที่ยังเป็นปัญหาที่น่าวิตก คือ การหลอกลวงผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพราะใช้เงินลงทุนทำเว็บไซต์เพียงเล็กน้อย แต่ขยายวงหลอกลวงได้อย่างกว้างขวางมากกว่าช่องทางอื่น เมื่อถูกเจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนหรือหลอกลวงเงินได้มากพอสมควรก็จะปิดเว็บทิ้ง แล้วไปเปิดอีกเว็บไซต์หนึ่งเพื่อหลอกลวงต่อไป
นอกจากนี้ ยังพบว่าแชร์ลูกโซ่หลอกลวงให้นำเงินมาร่วมลงทุนเก็งกำไรราคาทองคำ ราคาน้ำมัน ดังนั้น หากมีผู้ชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าปกติมาก ให้สันนิษฐานได้ว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกฉ้อโกง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต