x close

กระทรวงศึกษาธิการ อนุมัติวันนี้ เริ่มเรียนฟรี 15 ปี


          เดินเครื่องโครงการเรียนฟรี 15 ปี ปลัด ศธ.ชง รมว.อนุมัติวันนี้ ก่อนเข้าสภา 28 มกราคม มั่นใจเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2552 เริ่มได้แน่ เผยให้สิทธิเด็กเต็มที่ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าตำรา อุปกรณ์การเรียน ฯลฯ ยกเว้นชุดนักเรียน ต้องลงทะเบียนใช้สิทธิ เตรียมรณรงค์ให้คนร่ำรวยสละสิทธิ์ สร้างจิตสาธารณะและนำงบมาช่วยเด็กยากจนเพิ่มขึ้น เตรียมใช้งบทั้งหมด 1.8 หมื่นล้านบาท 

          เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ว่า ในการประชุมคณะทำงานเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ได้จัดทำรายละเอียดเพื่อเตรียมชี้แจงเรื่องเรียนฟรี 15 ปี ที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 28 มกราคม นี้ 

          นายชินภัทรกล่าวว่า คณะทำงานจะได้ทำความชัดเจนว่าที่จะดำเนินการในแต่ละส่วนมีพื้นฐานการคิดอย่างไร อาทิ ค่าเล่าเรียน จัดสรรอย่างไร, ค่าตำราเรียน จัดสรรอย่างไร ให้เลยหรือให้ยืมเรียน, ค่าอุปกรณ์การเรียน มีการกำหนดรายการพื้นฐาน ได้แก่ สมุดแบบฝึกหัด ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด เป็นต้น จะจัดซื้อและจัดส่งอย่างไร จะจัดสรรเป็นเงินและให้โรงเรียนไปดำเนินการซื้อเอง หรือจะใช้วิธีการใดที่โปร่งใสที่สุด ไม่ซ้ำซ้อน เพราะมีเจตนารมณ์อยากให้ไว้ใช้ตลอดปีการศึกษา ไม่ใช่ให้ต้นปีแล้วปลายปีมาขอใหม่เพราะใช้อย่างทิ้งขว้าง อย่างไรก็ตาม การกำหนดรายการมาตรฐานดังกล่าว เป็นเพียงการแนะนำรายการต่อโรงเรียน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องต่อความต้องการของโรงเรียนและนักเรียนได้ ดังนั้น จะผ่อนคลายเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น และจะได้สอดคล้องกับความต้องการมากขึ้น

          ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับเครื่องแบบนักเรียน เป็นสิทธิที่เด็กทุกคนพึงได้รับ แต่เนื่องจากใช้ราคาของคณะกรรมการมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เป็นราคามาตรฐานที่ใช้ในการจัดสรร ซึ่งเป็นราคาต่ำสุด แต่มีคุณภาพมาตรฐาน ขณะที่มีเด็กหลายกลุ่ม ได้แก่ เด็กในชนบท เด็กในเมือง เด็กในโรงเรียนเอกชน เด็กในโรงเรียนสาธิต ฉะนั้นคิดว่าในส่วนของเด็กในชนบท ราคามาตรฐานของ มอก.ดังกล่าว น่าจะใช้ได้ แต่สำหรับเด็กที่อยู่ในเมือง โรงเรียนเอกชนและโรงเรียนสาธิต อาจจะไม่เพียงพอ เนื่องจากชุดนักเรียนเป็นแบบแผนและมีราคาสูงกว่าราคามาตรฐานของมอก.มาก ดังนั้น อาจจะจัดสรรเป็นเงินแล้วไปเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งต้องให้โรงเรียนประสานผู้ปกครอง 

          นายชินภัทรกล่าวว่า อย่างไรก็ตามสิทธิในเรื่องเครื่องแบบนักเรียน จะเปิดให้มีการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ และจะประสานให้โรงเรียนเชิญชวนและรณรงค์ให้ผู้ปกครองที่มีฐานะร่ำรวยไม่ใช้สิทธิดังกล่าว เพื่อรัฐจะได้ประหยัดงบประมาณและนำเงินดังกล่าวมาช่วยเด็กยากจนและด้อยโอกาสเพิ่มขึ้น ถือเป็นการสร้างจิตสาธารณะด้วย โดยจะมีการออกใบประกาศเกียรติบัตรให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง โรงเรียนขึ้นบอร์ดยกย่องนักเรียนและผู้ปกครอง 
          
          "ต่อไปในอนาคตศธ.จะติดตามอย่างใกล้ชิด หากโรงเรียนใดสามารถเชิญชวนให้ผู้ปกครองไม่ใช้สิทธิได้มาก ศธ.ก็จะให้เครดิตเพราะถือว่าสามารถเชิญชวน ทำความเข้าใจและรณรงค์ได้ดี สำหรับเรื่องบริหารจัดการนั้น คณะทำงานพูดคุยกันว่าจะยืดหยุ่น โดยโรงเรียนสามารถบริหารจัดการได้เองเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น อาจจะให้กลุ่มแม่บ้านตัดเย็บ หรือในส่วนของเด็กอาชีวะ ก็อาจจะให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาตัดเย็บเองภายใต้งบฯ ที่ได้รับจัดสรร" นายชินภัทร กล่าว 

          นายชินภัทรกล่าวต่อไปว่า ส่วนงบประมาณพัฒนากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่ผ่านมาจัดสรรให้อยู่แล้ว จะอยู่ในรายการค่ายวิชาการ ค่ายคุณธรรมจริยธรรม ค่ายลูกเสือเนตรนารี ปีละ 1 ครั้ง และบริการไอซีทีสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง ถ้าโรงเรียนใดเพิ่มกิจกรรมมากกว่านี้ก็สามารถเก็บเป็นเงินค่ากิจกรรมได้ หรือเรียกว่าอยู่ในค่าบำรุงการศึกษาได้ แต่ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการสถานศึกษาก่อน และรายงานชี้แจงต่อเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัดด้วย ในส่วนของโรงเรียนสาธิตทุกแห่ง ได้มีการขอเงื่อนไขว่าไม่รับงบดังกล่าว เพราะไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมของโรงเรียนสาธิต ที่มีวัตถุประสงค์การจัดตั้งเฉพาะในเรื่องดำเนินการทดลองนวัตกรรมทางการศึกษา จึงมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ดังนั้น จึงไม่ขอรับการสนับสนุนงบพัฒนากิจกรรม แต่ขอให้การระดมทรัพยากรผู้ปกครองตามเดิมซึ่งก็เป็นความสมัครใจของผู้ปกครองแต่ต้นที่จัดส่งลูกมาเข้าโรงเรียนประเภทนี้ 

          นายชินภัทรกล่าวว่า นอกจากนี้คณะทำงานได้หารือถึงการจัดพิมพ์ตำราเรียนว่าทำอย่างไรถึงจะมีคุณภาพและทันเวลากับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2551 ซึ่งปีนี้รมว.ศธ.มอบนโยบายให้ใช้กระดาษถนอมสายตามาจัดพิมพ์ เพราะถนอมสายตาเด็ก ที่สำคัญมีน้ำหนักเบา เด็กจะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักไปโรงเรียน ทั้งนี้ ในการจัดสรรค่าใช้จ่ายหนังสือแบบเรียนให้กับโรงเรียนนั้น ศธ.จะยึดราคาปกของหนังสือองค์การค้าฯ โดยลดราคาร้อยละ 20 ของราคาปก เป็นหลักในการจัดสรรงบให้กับโรงเรียน และโรงเรียนสามารถนำเงินไปหาซื้อหนังสือได้ภายใต้งบที่ได้รับ ซึ่งสำนักพิมพ์ใดที่จัดพิมพ์ราคาที่สูงกว่างบดังกล่าว โรงเรียนก็จะไม่สามารถจัดซื้อได้ ส่วนที่ถามว่าจะผูกมัดให้องค์การค้าฯจัดพิมพ์รายการใดบ้างหรือไม่นั้น ยืนยันว่าการจัดพิมพ์ตำราเรียนยังคงเปิดเสรีให้เอกชนเหมือนเดิม ยกเว้นรายการใดที่องค์การค้าฯมีลิขสิทธิ์อยู่แล้ว ก็ดำเนินการไปตามนั้น

          "ปีนี้เป็นปีแรกที่ประกาศนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ดังนั้น จะจัดสรรให้อย่างเต็มที่ ยกเว้นเครื่องแบบนักเรียน ที่เราจะขอให้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ เนื่องจากมีกลุ่มนักเรียนที่หลากหลาย อีกทั้งจะได้รณรงค์เรื่องจิตสาธารณะด้วย ทั้งนี้ จะนำผลประชุมดังกล่าวเข้าหารือกับรมว.ศธ. ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของศธ.ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อยุติในทุกเรื่องในวันดังกล่าว หากได้รับงบมาแล้ว มั่นใจว่าจะดำเนินการได้ทันภาคเรียนที่ 1/2552 แน่นอน ขณะนี้ได้กำหนดปฏิทินการปฏิบัติงานหมดแล้ว รวมถึงการจัดส่งหนังสือแบบเรียนก็ต้องทันตามกำหนดด้วย ทั้งนี้ งบจะใช้ทั้งหมด 18,275 ล้านบาท ตามที่กำหนดอยู่ในร่างพ.ร.บ.งบประ มาณรายจ่ายเพิ่มเติมฯ" นายชินภัทร กล่าว





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กระทรวงศึกษาธิการ อนุมัติวันนี้ เริ่มเรียนฟรี 15 ปี อัปเดตล่าสุด 26 มกราคม 2552 เวลา 13:10:21 18,375 อ่าน
TOP