ดันอุทยานตะรุเตา ขึ้นเป็นมรดกโลก (ไทยโพสต์)
เตรียมผลักดันอุทยานแห่งชาติตะรุเตาเป็นมรดกโลก ผอ.อุทยานเผยจ้างทีมสำรวจเข้าไปศึกษา คาดแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ ยันมีลักษณะเด่นทั้งความงดงามทางธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์พืชและสัตว์ป่า
นายณัฐพล รัตนพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล เปิดเผยว่า ทางอุทยานอยู่ระหว่างประสานกับหลายฝ่ายเพื่อผลักดันให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเป็นมรดกโลก ซึ่งจะทำให้พื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ทั้งนี้ เพราะเล็งเห็นว่าที่นี่มีลักษณะเด่นหลายอย่าง ทั้งทางด้านความงดงามของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์และสัตว์ป่า รวมไปจนถึงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ ซึ่งในปี 2549 ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาก็ได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และพัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ให้เป็นมรดกอาเซียน เพราะมีความสวยงามและความหลากหลายทางชีวภาพครบตามที่กำหนด
"ขณะนี้ทางอุทยานฯ ก็ได้ว่าจ้างทีมสำรวจให้เข้ามาศึกษาภายในอุทยานฯ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบนบกหรือทะเล เพื่อที่จะขอยื่นเรื่องเสนอให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ โดยคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เนื่องจากการสำรวจมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ หากอุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็จะทำให้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น อย่างเช่น ลองแบของเวียดนาม พอได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็มีนักท่องเที่ยวรู้จักและให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก" นายณัฐพลกล่าว
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตากล่าวว่า ความเป็นธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก ต้นไม้บนเกาะและสัตว์ป่ายังคงอุดมสมบูรณ์ เพราะปราศจากสิ่งรบกวน ไม่มีใครลักลอบเข้ามาทำลาย ส่วนใต้ท้องทะเลปะการังต่างๆ ก็ยังคงมีความสวยงาม เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ และจากการสำรวจก็พบว่า ปะการังเหล่านี้ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สวยงามขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะแนวปะการังรอบเกาะอาดัง ราวี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ รวมไปจนถึงความหลากหลายทางชีวภาพ น่าจะสามารถช่วยกันผลักดันให้อุทยานแห่งชาติแห่งชาติตะรุเตากลายเป็นมรดกโลกได้ในไม่ช้า แต่นั่นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทางภาครัฐด้วยเช่นกัน
นายณัฐพลเปิดเผยด้วยว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ปีนี้ อุทยานแห่งชาติตะรุเตาร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานมงคลสมรสพร้อมจดทะเบียนหลังลอดซุ้มประตูหินบนบริเวณเกาะไข่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วิวาห์เกาะไข่" นั่นเอง
สาเหตุที่เลือกเกาะไข่เป็นสถานที่จัดงาน เนื่องจากเกาะไข่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะตะรุเตาที่มีความสวยงาม มีหาดทรายขาวนวล น้ำทะเลสีเขียวใสจนเห็นผืนทรายใต้น้ำ และปะการังที่สวยงาม ปลายเกาะด้านหนึ่งมีซุ้มประตูหินโค้ง อันเกิดจากประติมากรรมทางธรรมชาติ เปรียบเสมือนสะพานโค้งจากผืนทรายล้ำลงไปในทะเลอย่างงดงาม ได้สัดส่วนที่ลงตัว ทำให้ปัจจุบันนี้ซุ้มประตูหินโค้งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสตูล และอุทยานแห่งชาติตะรุเตา นอกจากนี้ เกาะแห่งนี้ยังเป็นสถานที่วางไข่ของเต่าทะเลมากมายในแต่ละปี ทำให้เกิดความเชื่อว่า ผู้ใดที่ได้ลอดซุ้มประตูหินจะต้องกลับมาเยือนเกาะไข่อีก เหมือนกับเต่าทะเลที่ขึ้นมาวางไข่บนเกาะไข่เสมอมา
นายณัฐพลกล่าวว่า ขณะนี้มีคู่สมรสทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แจ้งความจำนงขอเข้าร่วมงานแล้วประมาณ 25 คู่ และยังมีคู่ของดาราดังของเมืองไทย คือ ศิวัฒน์ และเอมี่ กลิ่นประทุม ที่ได้แจ้งความประสงค์ขอมาร่วมงานมงคลสมรสในครั้งนี้ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย