ใครไม่เคยขึ้นรถไฟฟ้า ยกมือขึ้น เชื่อว่าต้องมีแน่ ๆ อิอิ แต่ไม่เป็นไร วันนี้เรามีเรื่องราวของการขึ้นรถไฟฟ้าด้วยบัตรแบบใหม่มาฝากกัน ใครที่ขึ้นรถไฟฟ้าอยู่เป็นประจำ หรือคนที่ไม่เคยขึ้น ก็สามารถทำความรู้จักกับเจ้า บัตรแรบบิท นี้ได้เหมือนกัน
บัตรแรบบิท (Rabbit Card) เป็นบัตรที่ผู้โดยสารรถไฟฟ้าอยู่เป็นประจำ เริ่มจะรู้จักเจ้าบัตรนี้กันมากขึ้นแล้ว เพราะว่า บัตรแรบบิท คือ บัตรโดยสารรถไฟฟ้า ที่ถูกพัฒนาให้สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้ง รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที และในอนาคตจะใช้ซื้อของตามร้านค้าต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งก็ใช้วิธีการเดียวกับบัตรโดยสารรถไฟฟ้าแบบเก่า (Smart Pass) ที่ใช้เติมจำนวนเงินและจำนวนเที่ยวเช้าไปในบัตร
บัตรแรบบิท หาได้จากไหน ?
- สำหรับคนที่มีบัตรสมาร์ทการ์ดแบบเดิมอยู่แล้ว สามารถไปเปลี่ยนเป็นบัตรแรบบิท ได้โดยเสียค่ามัดจำบัตร 50 บาท ที่บีทีเอสทุกสถานี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นบัตรที่ยังไม่หมดอายุการใช้งาน
- สำหรับคนที่ไม่มีบัตรสมาร์ทการ์ดแบบเดิม ให้ขอออกบัตรแรบบิทได้ที่บีทีเอสทุกสถานี โดยมีค่าธรรมเนียมราคาพิเศษ 50 บาท จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 จากนั้น จะปรับเป็น 150 บาทตามปกติ
การเติมเงินใน บัตรแรบบิท
1. ประเภทเติมเงิน
เติมเงินขั้นต่ำ 100 บาท และ ไม่เกิน 4,000 บาท
มูลค่าในบัตรมีอายุ 2 ปี นับจากการใข้งานครั้งสุดท้าย หากหมดอายุสามารถเติมเงินเพื่อต่ออายุได้
บัตรแรบบิทมีอายุการใข้งาน 5 ปี
2. ประเภท 30 วัน
ใช้เดินทางได้ 25 สถานีหลัก ยกเว้นสถานี อ่อนนุช, บางจาก, ปุณณวิถี, อุดมสุข, บางนา และ แบริ่ง
แบ่งออกเป็น 2 ราคาดังนี้
1. บัตรแบบบุคคลทั่วไป
15 เที่ยว ราคา 375 บาท
25 เที่ยว ราคา 575 บาท
40 เที่ยว ราคา 840 บาท
50 เที่ยว ราคา 1,000 บาท
2. บัตรแบบนักเรียนนักศึกษา
15 เที่ยว ราคา 300 บาท
25 เที่ยว ราคา 450 บาท
40 เที่ยว ราคา 640 บาท
50 เที่ยว ราคา 750 บาท
รู้จัก บัตรแรบบิท มากขึ้นแล้ว ก็ขอให้เลือกเติมบัตรแรบบิทให้ตรงกับความต้องการของคุณ และขึ้นรถไฟฟ้าอย่างระมัดระวังนะจ๊ะ