x close

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง



มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง


           "ภารกิจการสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ" ถึงแม้ว่าจะเป็น 1 ใน 7 ภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ทางนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเอาไว้ว่าจะดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม  2554 ที่ผ่านมา...มาวันนี้ครบ 1 ปีแล้ว ภารกิจดังกล่าว ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่พบทางออก และนับวันปัญหาดังกล่าวก็ส่งผลให้ประชาชนสับสนมากขึ้น ว่า คำว่า "ปรองดอง" ที่นักการเมืองพูดให้ฟังอยู่บ่อย ๆ นั้น ด้านในเคลือบคำว่า "สงคราม" ที่พร้อมจะห้ำหั่นกันทุกเมื่อหรือเปล่า 

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง

           และในค่ำคืนวานนี้ (5 กรกฎาคม) ทาง "รายการที่นี่ตอบโจทย์" ซึ่งเป็นรายการที่เชิญนักการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด พรรคไหน มาเสนอความคิดเห็นถึงคำว่า "ปรองดอง" โดยในเทปนี้ ทางรายการได้เชิญ "นายจตุพร พรหมพันธุ์" อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หรือที่รู้จักกันดีในนามของ "แกนนำนปช." มาพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว 

           โดยพิธีกรได้ถามว่า จากการที่ได้สัมภาษณ์หลาย ๆ ท่าน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ล้วน ๆ จนกลายเป็นอำนาจพิเศษในประเทศนี้ เรื่องราวนี้จริงเท็จอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้มากจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่มาจากฝ่ายแพ้ที่สู้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ และนอกจากนี้ยังเกิดจากปัญหาความไม่ยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 การบงการฆ่า 91 ศพ ที่ถูกดึงไว้ในชั้นศาลถึง 3 ปี ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็นปัญหาของประชาชน ป่านนี้เรื่องคงเดินหน้า จนคนผิดได้รับโทษแล้ว ซึ่งตนอยากจะบอกว่า ประเทศไทยไม่มีความยุตธิรรมตั้งต้น ถ้าทุกรัฐบาลใช้ความยุติธรรมตั้งต้นเหมือนกัน เรื่องทุกอย่างก็แฟร์ ๆ ไม่มีอะไรที่มีปัญหาอย่างแน่นอน 

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง

           นายจตุพร กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้คู่ขัดแย้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นกลุ่มคนที่เรียกว่า "อำมาตยาธิปไตย" ซึ่งคนพวกนี้พยายามจะสร้าง จินตนาการว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาเป็นประธานาธิบดี จะขับไล่อำมาตย์ทุกคนเหมือนกับที่เขมรทำเมื่อ 30 ปีก่อน คือส่งอำมาตย์ไปไถ่นา ไปถูบ้าน สร้างความเชื่อแบบผิด ๆ จนกลายเป็นกลไกอย่างหนึ่ง และกลายเป็นเครื่องมือที่สร้างความแตกแยก ด้วยน้ำมือของคนที่แพ้มาตลอดชีวิต  

           ถ้าถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินการอย่างไรผิดพลาด หรือมีช่องว่างอะไร จนทำให้มี "อำมาตยาธิปไตย" เข้ามาแทรกแซง นายจตุพร กล่าวตอบว่า การบริหารประเทศชาติ ตนเชื่อว่าทุกรัฐบาลก็ต้องทำเรื่องที่ถูก และเรื่องที่ผิดมาบ้าง ส่วนกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขณะนั้นเดินทางที่จะพัฒนาบ้านเมืองจนลืมระบบอะไรบางอย่าง จนถูกคว่ำกระดานเช่นนี้ ทั้งนี้ ก่อนหน้าวันที่ 19 กันยายน ตนพร้อมกับ นายวีระ มุกสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้เดินทางพูดคุยเพื่อจะตั้งกองกำลังพิทักษ์ประชาธิปไตย แต่ก็ถูกคว่ำกระดานเสียก่อน 

           นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการรัฐประหารนั้น บางคนอาจจะคิดว่าในเมื่อเป็นรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกของประชาชน มีประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กคอยคุ้มกัน ตั้ง 19 ล้านเสียง แต่ทำไมถึงถูกแทรกแซงได้ ซึ่งเรื่องนี้มันก็เหมือน "สนิมเกิดจากเนื้่อใน" หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ไส้ศึก การล้มรัฐบาลในครั้งนั้นเลยเป็นไปอย่างง่ายดาย โดยในขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ทางรัฐบาลก็ไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แถมยังถูกหลอกว่า ไม่มีกำลังพล ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ สุดท้ายก็ถูกต้มทั้งรัฐบาล และโดนรัฐประหารในที่สุด แต่ทั้งนี้ ในเรื่องเลวร้ายก็มีเรื่องดี ๆ อยู่เหมือนกันก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะได้ทราบว่า ใครเป็นเพื่อนแท้ และใครเป็นคนทรยศ 

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง

           ทั้งนี้ ทางพิธีกร ถามอีกว่า เพราะเหตุใดถึงมีไส้ศึกทั้ง ๆ ที่ ใน ส.ส. และคณะรัฐมนตรีทุกคน ก็มีตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องการ เรื่องนี้นายจตุพร กล่าวตอบว่า บางคนก็ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ และบางคนก็เห็นว่า เรือลำนี้กำลังจะล่ม เลยขอสละเรือไป ส่วนที่พวกเขาสละเรือไป เพราะปัญหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาการขายหุ้นชินคอร์ป และหุ้นเทมาเส็ก อีกทั้งยังเลี่ยงการจ่ายภาษี ตามที่หลายคนเข้าใจนั้น เรื่องนี้อธิบายกันกี่ทีก็ไม่เข้าใจ ถ้าเปรียบเทียบกันมันก็เหมือนกับการดูฟรีคอนเสิร์ต ในเมื่อมันเป็นคอนเสิร์ตฟรี ใคร ๆ ก็เข้าฟรี ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องจ่ายค่าบัตรเข้าชม แต่กลับกลายเป็นพุ่งประเด็นมาว่า ทำไมถึงไม่จ่าย ทั้ง ๆ ที่ คนขายก๋วยเตี๋ยวยังต้องเสียภาษีเลย 

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง

           "ตอนนั้นรัฐบาลก็เหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยา มีแต่ไส้ศึกเต็มไปหมด และบ้านเมืองก็กำลังจะแตกแยก ถามหน่อยถ้าไม่มีไส้ศึกเปิดประตูให้พม่า พม่าจะเข้ามาตีกรุงศรีฯ ได้ไหม ประวัติศาสตร์มันเหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน แต่ถ้าลองมายึดแบบวันนี้ดูดิ... 19 กันยายน 2549 ผ่านมาแล้วเกือบ 6 ปี เราต่างก็สู้ด้วยกันมาตลอด สู้เพื่อภาคประชาชน ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ผมบอกเองว่า ผมไม่อยากได้สตางค์ แต่ขอสมอง ซึ่งจุดนี้ถือว่าแตกต่างกับเสื้อสีอื่น ที่เสื้อแดงมาด้วยใจ มาเพราะเข้าใจในระบบประชาธิปไตย ก่อให้เกิดกลุ่มคนเสื้อแดงขึ้น ทุกวันนี้ตนเดินทางไปหาประชาชน บ้างก็กั้นโต๊ะจัดโต๊ะจีน บ้างก็ระดมวิทยุชุมชน ซึ่งเขาทำกันเอง ถ้าหากทำเพราะเงินมันก็ซื้อใจไม่ได้ ไม่งั้นจะยอมตายถึง 91 คนไหม แค่ประทัดนัดเดียวก็วิ่งหนีกันแล้ว" นายจตุพรกล่าว 

           พิธีกร ถามต่อถึงปัญหานิรโทษกรรม ที่บางคนก็บอกว่า ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถอยไปก่อน เพราะถ้าไม่ถอยบ้านเมืองจะเดินต่อไปไม่ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องนิรโทษกรรม ถ้ามันทำได้ก็ได้กันทั้งหมด ทั้งประชาชน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถ้าหากยึดตามกระบวนขั้นตอนกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับสิทธิเหมือนกับประชาชนทุกคน 

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง

           "ถ้าถามว่าวันนี้สู้อยู่กับใคร ผมว่าทุกคนกำลังสู้อยู่กับความรู้สึกตัวเอง ว่าอยากให้ประเทศนี้มีชะตากรรมอย่างนี้หรือเปล่า ทนกับระบอบนี้ได้หรือไม่ 19 กันยายน ที่เกิดรัฐประหาร เหมือนเขาคืนอำนาจให้ประชาชน จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ มันคืนให้แค่เสี้ยวหนึ่งเท่านั้น ประเทศนี้บอกไว้เลยว่า มี 2 ระบบ ถึงแม้ว่า พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย จะชนะการเลือกตั้งมาทุกครั้ง แต่ก็แพ้กับอำนาจของ ศาลรัฐธรรมนูญ กกต. องค์กรอิสระต่าง ๆ ซึ่งพวกนี้ทั้งหมดเป็น "อำมาตยาธิปไตย" ที่เป็นกลไกปล้นอำนาจจากประชาชน เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ถึงเอาเสียงข้างมากมาตัดสินไม่ได้" 

           นายจตุพร กล่าวต่อว่า ประเทศอื่น ๆ ประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตย เขาฟังเสียงข้างมากกัน แต่รัฐบาลประเทศไทยไม่เหมือนใคร คือฟังเสียงข้างน้อย ถึงแม้รัฐบาลได้เสียงข้างมาก มันก็เป็นเพียงแค่คะแนนเสียงเท่านั้น พอเวลาผ่านไปประมาณ 9 เดือน เสียงข้างน้อยก็จะเผด็จการให้เสียงข้างมากทำตาม 

           แกนนำ นปช. กล่าวอีกว่า สำหรับคำถามที่ว่า ในเมื่อเรามีเสียงข้างมาก แต่ทำไมทำไม่สำเร็จเสียที หรือเป็นเพราะสังคมไม่เอาด้วยหรือเปล่า ตนก็อยากจะย้ำว่า ไม่ใช่สังคมไม่เอาด้วย แต่เป็นเพราะมันมีอีกระบบหนึ่งซ้อนอยู่นั้นก็คือ ระบบอำมาตยาภิวัฒน์ 

           พิธีกร ถามต่อว่า ประชาชนบางกลุ่มก็เรียกการกระทำของคนเสื้อแดงว่า "ทักษิณาภิวัฒน์" ทำทุกอย่างเพื่อคนคนเดียวเช่นกัน ทางด้าน นายจตุพร กล่าวว่า ตอนนี้ทางพรรคข้ามพ้นคำว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ไปแล้ว ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรที่ประชาชนไม่ยอมรับ ประชาชนก็ไม่เอาด้วยแน่นอน ขบวนการคนเสื้่อแดงขณะนี้ ไม่ใช่ขบวนการเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ระยะแรกมันใช่ แต่ทั้งนี้ ต่อมาทุกอย่างมันอยู่ด้วยอุดมการณ์เท่านั้น ถึงไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกอย่างก็ยังดำเนินการต่อไป 

มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง

           "บ้านเมืองทุกวันนี้ก็ยังหาความสงบไม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ถ้าหากบ้านเมืองสงบ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะเป็นแค่ฝ่ายค้านต่อไป ตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา ก็แพ้มาตลอด ต่อไปถ้าหากมีพฤติกรรมอย่างนี้ อย่างไรก็ต้องแพ้อีก นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์พูดอะไร อำมาตย์ก็หลงเชื่อ พอหลงเชื่อเสร็จก็คว่ำกระดาน เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด ซึ่งความจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เข้าประเทศมา 6 ปีแล้ว ประชาชนยังเลือก แล้วทำไมประชาธิปัตย์ต้องกลัว ทำไม่ไม่สร้างผลงานที่ดีกว่า มากกว่าหาเรื่องมาทำลาย โดยที่ไม่มีวันชนะอย่างนี้" 

           ส่วนประเด็นที่ถามว่า ทุกวันนี้พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ใช่หรือไม่ นายจตุพร กล่าวตอบว่า การคุยมันก็เหมือนการแลกเปลี่ยน ในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์มันก็ต้องมีกันบ้าง ที่นายอภิสิทธิ์ ไปปรึกษานายชวน หลีกภัย ทั้งนี้การพูดคุยก็คือการพูดคุย แนะนำ ไม่ได้สั่งการอะไรทั้งนั้น เพราะนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นคนที่รับฟังความคิดเห็น และตัดสินใจทุกอย่างด้วยดุลยพินิจของตัวเอง แต่ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์การทำงานที่มากกว่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บริหารประเทศจนประสบความสำเร็จมา 6 ปี นั้น คงจะแนะแนวทางดี ๆ ให้นางสาวยิ่งลักษณ์บ้าง ตนก็คิดว่ามันไม่แปลก หรือไม่ใช่เรื่องดีอะไร เพราะคนที่ได้ประโยชน์ ก็ประชาชนทั้งนั้น 

           พร้อมกันนี้ นายจตุพร ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับทางออกเรื่องการปรองดองนั้น คืออย่าให้อำมาตย์เข้ามาแทรกแซง ใครอยู่บทบาทไหน ก็ทำตามหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้ดีที่สุด ประชาธิปไตยจะได้เดินหน้าเสียที 






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มุมมอง จตุพร ชี้หากอำมาตย์ไม่แทรกแซง ทุกอย่างปรองดอง โพสต์เมื่อ 6 กรกฎาคม 2555 เวลา 14:54:06 2,549 อ่าน
TOP