เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า เกิดฝนตกอย่างหนักในเขตคราสโนดาร์ แหล่งตากอากาศริมทะเลดำ ทางตอนใต้ของรัสเซีย ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม ต่อเนื่องมาถึงวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 144 คน ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการจมน้ำ และถูกไฟฟ้าช็อต เนื่องจากเกิดน้ำหลาก ในขณะที่ประชาชนส่วนมากกำลังนอนหลับ และหนีน้ำไม่ทัน
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า กระแสน้ำ และโคลนเชี่ยวกราดไหลทะลักเข้าท่วมถนนหนทางและบ้านเรือน บางแห่งน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนมิดหลังคารถ บางพื้นที่ประชาชนต้องลุยน้ำสูงถึงเอวหรือใช้เรือเป็นยานพาหนะ โดยเจ้าหน้าที่เผยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 70 ปี ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาตลอด 24 ชั่วโมงเท่ากับปริมาณฝนในช่วงปกติถึง 5 เดือนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทางการได้สรุปความเสียหายเบื้่องต้นแล้ว พบว่า บ้านเรือนประชาชนท่วมกว่าพันหลังคาเรือน ส่วนประชาชนกว่า 2 หมื่นคนไม่มีไฟฟ้าใช้ รางรถไฟและถนนจมน้ำ ถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรได้ ทั้งนี้ ทางการได้ประกาศฉุกเฉินในหลายเมืองบริเวณเขตคราสโนดาร์ และที่เมืองท่าโนโวรอสซิสค์แล้ว
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย มีคำสั่งให้ นายวลาดิมีร์ พุชคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงฉุกเฉิน ลงไปกำกับปฏิบัติการกู้ภัยด้วยตนเอง พร้อมทั้งส่งเครื่องบินลำเลียง และเฮลิคอปเตอร์ไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก