x close

แม่ฮาเวิร์ด หวัง ขอความเป็นธรรม กลางรายการ เจาะข่าวเด่น


ฮาเวิร์ด หวัง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          หลังจากที่ฮาเวิร์ด หวัง นายแบบและอดีตนักร้องดังชาวไต้หวัน ถูกตำรวจเข้าจับกุมตัว หลังจากที่บุกรุกบ้านของ เอมี่ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ เอมี่ แม็กซิม นางแบบสาว ก่อนที่จะถูกศาลปฏิเสธการประกันตัว เนื่องจากถูกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ขึ้นบัญชีดำเอาไว้ว่า เป็นบุคคลต้องห้าม และเป็นภัยต่อสังคม

ฮาเวิร์ด หวัง

          ด้วยเหตุนี้ นางจูลี่ ฉู่ มารดาของฮาเวิร์ด จึงได้กล่าวเปิดใจในรายการเจาะข่าวเด่น ประจำวันที่ 26 เมษายน 2556 พร้อมกับใส่ชุดและคาดผ้าสีขาวบนศรีษะเอาไว้ โดยที่ในมือถือป้ายที่มีข้อความว่า "ขอความเป็นธรรม!! ฮาเวิร์ด ไม่ใช่บุคคลอันตราย" ว่า ขอยืนยันว่าฮาเวิร์ดไม่ใช่บุคคลอันตรายใด ๆ เพราะบุคคลอันตรายจริง ๆ ตามความคิดของเธอต้องเป็นมือปืน ค้ายาเสพติด หรือไม่ก็เป็นผู้ก่อการร้าย แต่สำหรับฮาเวิร์ดแล้ว เขาเป็นเพียงวัยรุ่นที่รักสนุกเท่านั้น

          ส่วนข้อหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งขึ้นทั้ง 3 ข้อหา เริ่มจากข้อหายาเสพติด จุดนี้เธอก็ชี้แจงว่า ฮาเวิร์ดนั้นถูกแกล้ง แต่ถ้าออกไปหาหลักฐานมาชี้แจงก็คงเป็นเรื่องที่ยาก อีกทั้งคดีเก่า ๆ ที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้ไปสร้างความเสียหายให้แก่ใคร ฉะนั้น การที่ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นคนอันตรายแบบนี้ ชีวิตหลังจากนี้อาจจะมีปัญหา โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีกว้างไกล ข่าวสารแพร่กระจายไปสู่ต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้ฮาเวิร์ดหางานได้ลำบากมากขึ้น แม้ว่าคดีจะเกิดขึ้นในประเทศไทยก็ตาม ดังนั้น ตนจึงต้องออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้บุตรชาย

          ทางด้านผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ทาง สตม. ขึ้นบัญชีดำฮาเวิร์ด ก็เพราะว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และกระทำผิดซ้ำซาก ซึ่งทางนายอากาศ วลิกชาติ ทนายความของฮาเวิร์ด จึงชี้แจงว่า กระบวนการการขึ้นบัญชีดำ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ระบุไว้ว่า จะต้องเป็นคนที่กระทำอันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน หรือความมั่นคงของราชอาณาจักร ซึ่งเราจะต้องมาดูกันว่า ฮาเวิร์ดจะเข้าข่ายตรงจุดใด แต่ในความเห็นตัวเองถือว่าแต่ละข้อไม่น่าจะเข้าข่ายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทาง สตม. ไม่ได้นิยามขอบข่ายการขึ้นบัญชีดำเอาไว้

ฮาเวิร์ด หวัง

          เมื่อมาดูคดีที่ฮาเวิร์ดทำ ก็คือ ทำร้ายร่างกาย จำคุก 1 เดือน ปรับ 2 พันบาท, เสพยาเสพติด จำคุก 3 เดือน ปรับ 5 พันบาท และครอบครองกัญชา จำคุก 1 เดือน 15 วัน ทั้งหมดรอลงอาญา ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับบุคคลธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร ก็คงแค่ถูกปรับและก็กลับบ้าน ไม่มีการลงโทษถึงขั้นขึ้นบัญชีดำอย่างแน่นอน ทว่า เมื่อมาดูกฎการขึ้นบัญชีดำว่า ต้องเป็นบุคคลที่เคยต้องคดีอาญาในประเทศไทย จุดนี้ก็อาจจะใช่ แต่ทาง สตม. ไม่สามารถมากำหนดได้ เพราะแค่ลงอาญาเท่านั้น

          ด้านผู้ดำเนินรายการจึงถามต่อไปว่า สตม. อาจจะขึ้นบัญชีดำฮาเวิร์ด เนื่องจากว่าเป็นคนมีชื่อเสียง การกระทำที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชนได้ ทางนายอากาศ ก็ตอบว่า เรื่องนี้ ควรตีความในทางแคบที่สุด จึงถือว่าเป็นการตีความที่รุนแรงเกินไป

          ขณะที่มารดาของฮาเวิร์ด กล่าวหลังจากที่ถูกถามว่า ทราบมาก่อนหรือไม่ว่าบุตรชายถูกขึ้นบัญชีดำ ว่า เพิ่งมารู้จริง ๆ ก็ตอนที่เป็นข่าว ส่วนสภาพของบุตรชายในเรือนจำตอนนี้ ก็พยายามทำใจให้สงบ ออกกำลังกายกับนักมวยไทย พร้อมกับขอโทษแม่ ที่ทำให้แม่ต้องอยู่คนเดียว

ฮาเวิร์ด หวัง

          "รู้สึกการลงโทษที่บุตรชายได้รับ มันรุนแรงเกินไป แม้ว่าจะมีคดีเก่าก็ตาม ซึ่งการที่ลูกชายทำผิดบ่อย ๆ เธอก็ได้ดุด่าฮาเวิร์ดเหมือนกัน แต่ในเรื่องผู้หญิงที่บุตรชายไปข้องเกี่ยวด้วย มักโดนฝ่ายหญิงขู่อยู่เสมอ ในช่วงที่ฮาเวิร์ดอารมณ์ฉุนเฉียวว่า จะไปแจ้งตำรวจ ซึ่งทางบุตรชายเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมไม่อยากเข้าออกโรงพักบ่อย ๆ อยู่แล้ว ตัวอย่างที่เห็นก็คือ คดีที่เกิดขึ้นเพราะเอมี่" มารดาของฮาเวิร์ดกล่าวอย่างน้ำตาคลอ

          สำหรับประเด็นที่ฮาเวิร์ดเปลี่ยนชื่อ เพื่อกลับเข้ามายังประเทศไทยใหม่ แล้วทาง ตม. ไม่ทราบ มารดาของฮาเวิร์ดก็ชี้แจงว่า ช่วงที่ฮาเวิร์ดเข้ามาประเทศไทยครั้งล่าสุด เป็นช่วงที่เปลี่ยนพาสปอร์ตเล่มใหม่พอดี เนื่องจากพาสปอร์ตหมดอายุ ประจวบกับถูกหมอดูทักให้เปลี่ยนชื่อ เพราะเป็นชื่อที่ไม่เป็นมงคลเท่าใด อยู่ประเทศไทยประมาณ 3 ปี ก็เกิดเรื่องมากมาย ฉะนั้นเจ้าตัว จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อในพาสปอร์ตเล่มใหม่ในที่สุด ซึ่งการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์การเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งแน่นอน

          ส่วนประเด็นที่บุตรชายใช้เลือดไปเขียนที่ระเบียงบ้านเอมี่ เรื่องนี้ไม่ทราบจริง ๆ เพราะไม่ได้ตามข่าว แต่ก็ตกใจเหมือนกันที่วันนั้นฮาเวิร์ดกลับมาบ้านแล้วมีเลือดเต็มเสื้อไปหมด จึงสอบถามในรายละเอียด ได้ความจากบุตรชายว่า วันนั้นเอาของขวัญไปง้อ แต่เอมี่ไม่ยอมรับ ก็เลยโมโห ชกกระจกจนแตก จากนั้นเอมี่ก็โทรมา และมีการขอโทษในที่สุด

          เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า จากนี้ไปจะทำอย่างไร เพราะทางตำรวจต้องใช้เวลาในการพิจารณาคดีประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งอาจจะทำให้ฮาเวิร์ดอาจติดคุกถึง 3 เดือน ด้านมารดาของฮาเวิร์ดก็กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำอย่างไร คงต้องทำใจ แต่ก็รับไม่ได้กับกฎหมายไทยจริง ๆ เนื่องจากโทษรุนแรงเกินไป แม้ว่าฮาเวิร์ดจะทำผิดจริงก็ตาม สุดท้ายก็พยายามนำฮาเวิร์ดออกจากคุกให้ได้เร็วที่สุด



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่ฮาเวิร์ด หวัง ขอความเป็นธรรม กลางรายการ เจาะข่าวเด่น โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2556 เวลา 22:36:50
TOP