เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการครอบครัวข่าวเช้า โพสต์โดย คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
พ่อสร้างเกาะขุดคูน้ำล้อมรอบ ทำรั้วกั้น ขังลูกสาวป่วยทางจิตอยู่ในกระท่อมตามลำพังนานกว่า 20 ปี เผยรู้สึกสงสารแต่จำใจทำ กลัวลูกคลุ้มคลั่งไปทำร้ายคนอื่น
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2556 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุรศักดิ์ มณทิราช อายุ 37 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า ที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง มีชายชราต้องเลี้ยงลูกสาวที่ป่วยทางจิตมานานกว่า 20 ปี ด้วยวิธีการขุดคูน้ำล้อมรอบสวนมะพร้าวหลังบ้านจนกลายเป็นเกาะ และปลูกกระท่อมให้อยู่ตามลำพัง 1 หลัง พร้อมกับมีการทำรั้วลวดหนามกั้นล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง ส่วนการให้อาหารแต่ละครั้งต้องใส่ถุงพลาสติกโยนข้ามรั้วและคูน้ำไปให้ เห็นสภาพแล้วน่าเวทนาไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง จึงเดินทางไปตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงอยู่ติดถนนลาดยางสายทุ่งคาน้อย-ปากน้ำชุมพร ห่างจากหลังบ้านประมาณ 10 เมตร กลางสวนมะพร้าว พบกระท่อมก่อด้วยอิฐบล็อก ฝาและหลังคากั้นและมุงด้วยสังกะสี โดยทั้ง 4 ด้านมีคูน้ำกว้าง 3 เมตร ลึก 2 เมตร ล้อมรอบกระท่อม และล้อมด้วยรั้วลวดหนามไว้อีกชั้นหนึ่ง พบหญิงสาวทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.อนงค์ หรือ หีด อายุ 39 ปี สภาพนุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดแขนยาว เนื้อตัวสกปรก ไว้ผมยาวจับกันเป็นก้อนหนา ยืนพูดจาคนเดียว เมื่อเห็นผู้สื่อข่าว น.ส.อนงค์ ก็ร้องขอข้าวและขนมกินอย่างน่าเวทนา
จากการสอบถาม นายเฉียบ อายุ 86 ปี พ่อของ น.ส.อนงค์ เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 7 คน น.ส.อนงค์ เป็นบุตรคนที่ 3 เดิม น.ส.อนงค์ ก็เหมือนคนปกติทั่วไป เรียนหนังสือจบชั้น ม.3 เมื่ออายุ 17 ปี ได้แต่งงานแยกครอบครัวไปอยู่กับสามีที่ จ.สงขลา ได้ประมาณ 5 เดือนก็แยกทางกันแล้วกลับมาอยู่กับตน จากนั้นก็เกิดอาการทางประสาท วันใดอากาศร้อน น.ส.อนงค์ จะมีอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายสิ่งของ ทุบตีตน และชาวบ้านที่ผ่านไปมา
และแม้ว่าตนและญาติ ๆ เคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ก็ไม่หาย และต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก ตนไม่มีเงินแถมอายุก็มากแล้ว ส่วนลูกคนอื่น ๆ ก็แยกไปมีครอบครัวกันหมด ตนไม่อยากรบกวนใคร จึงจำเป็นต้องเลี้ยง น.ส.อนงค์ ตามมีตามเกิดด้วยการขังให้อยู่บนเกาะ เพราะเกรงว่า น.ส.อนงค์ จะไปทำร้ายชาวบ้าน แม้จะรู้สึกสงสารลูก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร การให้อาหารแต่ละวันก็ต้องใช้วิธีใส่ถุงพลาสติกโยนข้ามไปให้เพราะกลัวถูกทำร้าย ซึ่งถ้าใครที่พอจะช่วยได้ ก็อยากให้ช่วยที
ขณะที่ทางด้าน นายจัด สุจริต อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทุกคนทราบดี แต่ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร ตนเคยแจ้งเรื่องให้อำเภอเมืองชุมพรทราบแล้วแต่เรื่องก็เงียบหายไป ดูจากสภาพความเป็นอยู่ของ น.ส.อนงค์ ตนเห็นว่าไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังกรง รู้สึกสงสารจึงขอให้ นายสุรศักดิ์ มณทิราช ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบ เผื่อจะมีหน่วยงานไหน หรือคนใจบุญ เข้าไปช่วยเหลือ น.ส.อนงค์ พาไปรักษาให้ถูกหลักวิธี สภาพความเป็นอยู่ก็น่าจะดีกว่านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก