เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยันตัวเลขขาดทุนจำนำข้าวสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท หากรวมดอกเบี้ยจริงที่เกิดขึ้น เชื่อรัฐบาลปรับลดราคาจำนำ ชี้กระทบกับผลประโยชน์ของชาวนาโดยตรง
เมื่อวานนี้ (18 มิถุนายน 2556) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย ชาแนล ถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) สรุปตัวเลขขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวว่า ตนสับสนกับการที่รัฐบาลออกมาแจงตัวเลขปี 54/55 กับปี 55 โดยรวมค่าดอกเบี้ยว่า ขาดทุน 1.3 แสนล้านบาท ทั้งที่ค่าดอกเบี้ยเฉพาะปี 54/55 มียอดสูงถึงประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จึงไม่เชื่อว่าปี 54/55 จะขาดทุนเพียง 4.2 หมื่นล้านบาท ดังที่กล่าวอ้าง
สรุปแล้วตนยังมองว่า ในปีปกติไม่รวมช่วงน้ำท่วม การขาดทุนจะยังอยู่ที่ตัวเลขรวม 2 ฤดูกาล ประมาณ 1.6 - 1.7 แสนล้านบาท ถ้ารวม 3 ฤดูกาลที่รัฐบาลรับจำนำแล้ว ตัวเลขขาดทุนน่าจะประมาณ 2.6 แสนล้านบาท ส่วนการที่รัฐบาลแก้ไขปัญหาโดยลดราคาหรือจะลดปริมาณการรับจำนำนั้น ก็มีปัญหาแตกต่างกัน เพราะถ้าลดราคาก็จะลดผลประโยชน์ที่ชาวนาได้เต็ม ๆ แต่เงินที่สูญหายในปัจจุบันจากการประเมินกันว่า เป็นจำนวนกว่าแสนล้านบาทนั้น หากไปอยู่ที่คนอื่นก็ไม่รู้ว่ามันจะลดหรือไม่ แต่ถ้ารับจำนำแบบระบบโควตา เมื่อถึงเวลาก็น่าจะมีปัญหาเรื่องการขอขยายโควตาอีก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าแต่ละปีเสียหายประมาณ 2 แสนล้านบาท แต่ชาวนาได้รับเงินไม่ถึง 1 แสนล้านบาท ก็ขอเรียกร้องว่า เงินประมาณ 1 แสนล้านบาทนี้ ชาวนาต้องได้เหมือนเดิมและรัฐบาลต้องลด 1 แสนล้านบาทที่ไม่ไปถึงชาวนา แต่การที่รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาโดยลดประโยชน์ที่ให้ชาวนานั้น ไม่ใช่ข้อเรียกร้องของผู้ที่คัดค้านโครงการนี้ต้องการ และตนเชื่อว่า หากรัฐบาลประกาศตัวเลขการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวปี 55/56 ตัวเลขก็จะตรงกับที่ตนเคยพูดไว้ คือ ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลปลด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง เรื่องจะจบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ตนไม่ได้สนใจว่าจะมีการปลดนายบุญทรงหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนให้ นายวราเทพ รัตนากร ซึ่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาดูแลแทน แต่ตนสนใจว่า รัฐบาลจะมากอบกู้อนาคตข้าวไทยได้หรือเปล่า และจะทำอย่างไรให้ชาวนาได้ประโยชน์เต็มที่ รวมทั้งจะทำอย่างไรไม่ให้เรื่องนี้ลุกลามจนทำให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ หรือการขาดดุลงบประมาณ จนส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศเสียหาย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก