แม่ยันลูกชายวัย 23 ปี ไม่เคยถูกสุนัขกัด หลังแพทย์วินิจฉัยเสียชีวิตเพราะพิษสุนัขบ้าสายพันธุ์ใหม่และขอเก็บศพไว้ชันสูตร เผยก่อนลูกชายเสียชีวิตถูกส่งตัวไปหลายโรงพยาบาล พร้อมเรียกร้องให้แพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาชี้แจง
จากกรณีที่ นายทวีศักดิ์ ทรัพย์ยุทธ์ อายุ 23 ปี ถูกสุนัขกัดเพียง 1 วันก่อนจะมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลปทุมธานี ซึ่งมีการคาดเดาว่าอาจติดเชื้อพิษสุนัขบ้าสายพันธุ์ใหม่ โดยได้มีการส่งศพมาชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นั้น
โดยการผ่าพิสูจน์ศพในลักษณะนี้จะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด และจะต้องให้วัคซีนแก่ผู้ทำการชันสูตรเพราะเป็นเชื้อพิษสุนัขบ้าสายพันธุ์ใหม่ ดังนั้นทางสถาบันจึงต้องส่งศพไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อตรวจสอบและวินิจฉัยโรคอย่างปลอดภัยต่อไป
ด้านคุณแม่ของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า ลูกชายไม่ได้ถูกสุนัขกัดหรือสัตว์ใด ๆ กัด ตามที่เป็นข่าว โดยเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ลูกชายมีอาการตัวร้อนเป็นไข้จึงพาไปโรงพยาบาลธัญบุรี ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีการเจาะเลือดไปตรวจและบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ จึงให้ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และยาอีกชนิดหนึ่งแต่ตนไม่ทราบว่าเป็นยาอะไรมาทานและกลับมาที่บ้าน
แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 4 กันยายน 2559 อาการของลูกชายไม่ดีขึ้นเลยตัดสินใจไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ซึ่งวินิจฉัยว่า เป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ตนจึงขอร้องให้คุณหมอช่วยรักษาแต่คุณหมอบอกว่า เตียงเต็มไม่สามารถรักษาได้ จึงส่งตัวกลับไปที่โรงพยาบาลธัญบุรี แต่ทางโรงพยาบาลธัญบุรี ได้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลปทุมธานี จนถึงวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา แพทย์ได้เรียกตนเข้าไปบอกว่า ลูกชายอาการหนักมากก่อนที่จะเสียชีวิตลงวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
ด้านพี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีข้อสงสัยว่า ในเมื่อโรงพยาบาลปทุมธานี ได้ระบุการเสียชีวิตของน้องชายแล้วว่า ป่วยเป็นไข้สมองอักเสบ ทำไมต้องส่งศพของน้องชายไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชฯ อีกครั้ง และตอนที่น้องชายมีชีวิตอยู่ก็ต้องย้ายไปหลายโรงพยาบาล เนื่องจากไม่มีแพทย์ที่จะรักษาได้ แต่เวลานี้กลับจะเก็บศพของน้องชายไว้ชันสูตรเพื่ออะไร ตนจึงอยากให้แพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้ตนและแม่ได้รับทราบ และขอยืนยันว่า น้องชายไม่ได้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าสายพันธุ์ใหม่อย่างที่หลายคนเข้าใจ
ภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้, สำนักข่าว INN