โดยสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถของพนักงานขับรถทันที 30 วัน และเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ตามมาตรา 107 ประกอบมาตรา 127 ฐานความผิดรับผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ด้านผู้ประกอบการขนส่ง คือ บริษัท วชิรปราการยานยนต์ จำกัด สั่งเปรียบเทียบปรับในข้อหาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนดเกี่ยวกับจำนวนที่นั่ง เกณฑ์น้ำหนักบรรทุกและวิธีการบรรทุก เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท พร้อมดำเนินการถอนรถตู้คันหมายเลขทะเบียน 10-1457 กำแพงเพชร ออกจากบัญชีรายละเอียดของรถที่ใช้ในการขนส่ง (ขส.บ.11)
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจรถตู้โดยสารประจำทางหมวด 2 สายที่ 9904-5 กรุงเทพฯ-ชลบุรี คันหมายเลขทะเบียน 15-4359 กรุงเทพมหานคร พบว่าสภาพยางชำรุดเสียหายมากจนอาจก่อให้เกิดอันตราย กรมการขนส่งทางบกติดตามเรียกตัวเจ้าของรถคันดังกล่าวเข้ารายงานตัวทันที โดยได้เปรียบเทียบปรับในฐานความผิดใช้รถที่มีสภาพไม่มั่นคง แข็งแรง เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท และข้อหาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนดโดยไม่นำรถเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสาร เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และได้สั่งห้ามใช้รถตู้โดยสารคันดังกล่าว โดยต้องดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย และนำรถเข้ารับการตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรีก่อนนำมาใช้งานอีกครั้ง
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิดทุกรายจะถูกบันทึกประวัติความผิดไว้ใน ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ หากพบการกระทำความผิดซ้ำพิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถตามลำดับ พร้อมเข้มงวดมาตรการดำเนินการเอาผิดกับผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่มีมาตรการในการกำกับดูแล หรือละเลย จะพิจารณาไม่ต่ออายุใบประกอบการขนส่ง และหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ประกอบการต้องร่วมรับผิดชอบด้วยทุกกรณี
สำหรับประชาชนหากพบเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว หรือถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการ สามารถแจ้งหมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุลผู้ขับรถ ได้ที่ 1584 สายด่วนศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนผ่านทางเฟซบุ๊ก ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584
ข้อมูลและภาพจาก กรมการขนส่งทางบก