สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แจงผู้โดยสารตกเครื่องไม่ใช่เพราะทำงานช้า ยันดำเนินการตามมาตรฐานสากล-ตรวจเร็วกว่าหลายประเทศ เหตุผู้โดยสารตกเครื่องไม่เกี่ยวรอคิว อาจมาจากสาเหตุอื่น วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 พล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อแก้ไขปัญหาผู้โดยสารตกเครื่อง นอกจากนี้ยังได้ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังสนามบินทั่วประเทศ เพื่อหารือการแก้ปัญหาเกี่ยวกับผู้โดยสารหนาแน่น
สำหรับการประชุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
ที่มีการทำงานล่าช้า จนทำให้ผู้โดยสารตกเครื่องเมื่อวันที่ 26
กุมภาพันธ์ 2560 โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วก็พบว่ามีผู้โดยสารตกเครื่องจริง จำนวน 4
คน เป็นผู้โดยสารชาวกัมพูชา เที่ยวบิน TG-931 สุวรรณภูมิ-พนมเปญ
กำหนดการเดินทาง 08.20 น. ประตูขึ้นเครื่อง C1 มีผู้โดยสารจำนวน 89 คน
แต่มีผู้โดยสารขึ้นเครื่องเพียง 85 คน
รายงานข่าวระบุว่า
ข้อมูลของสายการบินพบว่าผู้โดยสารเช็กอินผ่าน ตม. คนสุดท้าย
สามารถขึ้นเครื่องได้ทัน
ซึ่งสาเหตุการตกเครื่องของผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวอาจไม่ได้เกิดจากการรอคิว
ตม. แต่น่าจะตกเครื่องจากสาเหตุอื่น เช่น การเลือกซื้อสินค้า
และรับประทานอาหาร หรืออาจเดินพลัดหลง
ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้มีการหารือกับการท่าอากาศยาน
เพื่อแก้ไขปัญหาจากกรณีที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และเพิ่มช่องทางในการตรวจ
โดยมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง อีก 400 นาย
เพื่อลดความแออัดของผู้โดยสารชาวต่างชาติ
สำหรับสถิติผู้โดยสารในปี
2560 มีแนวโน้มสูงขึ้น
เนื่องมาจากมาตรการการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ
และนโยบายลดภาษีค่าทำเนียมวีซ่า ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีมากขึ้น
ซึ่งการตรวจผู้โดยสารของ ตม. นั้น ใช้เวลาในการตรวจเฉลี่ย 45 วินาที-1
นาที ต่อคน ถือว่าเป็นระยะเวลามาตรฐานสากลและเร็วกว่าหลายประเทศ
เพราะการตรวจคนเข้าเมืองเป็นงานควบคู่กับความมั่นคง จะตรวจเร็วไม่ได้
ซึ่งหลังจากการร่วมประชุมในครั้งนี้ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ได้กำชับให้มีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และวางแผนบริหารจัดการให้เหมาะสม
เพื่อลดความหนาแน่นของผู้โดยสารในเวลาเร่งด่วน ภาพจาก
ครอบครัวข่าว 3 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก