บอย ถกลเกียรติ รับเป็นฝ่ายเตะรถคู่กรณีก่อน เหตุเคืองที่โดนปฏิเสธตลอด เปิดไฟว่างก็ไม่รับ ก่อนโดนด่าและขู่ยิง จึงยอมไหว้และเสนอเงิน แต่ไม่ติดใจเอาความ จากกรณีที่สังคมกำลังสนใจจากคลิปที่ บอย ถกลเกียรติ บอสใหญ่จากค่ายเอ็กแซ็กท์ เจอแท็กซี่ฉุนขาดหลังโดนทุบรถ โดยข่มขู่จะเอาปืนมายิง และสั่งให้ บอย ถกลเกียรติ ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมเรียกค่าเสียหายอีก 1,000 บาท ก่อนที่ต่อมาจะเข้ามอบตัว และถูกกรมขนส่งทางบกลงโทษแล้วนั้น (อ่านข่าว : แท็กซี่คลิปขู่ บอย ถกลเกียรติ ชี้คุณรวย แต่ผมหาเช้ากินค่ำ ซัดคนโพสต์ทำเสียหาย )
จากเรื่องนี้ ล่าสุด วันที่ 3 เมษายน 2560 บอย ถกลเกียรติ
ได้ออกมาแถลงข่าวที่ตึก GMM Grammy ระบุว่า
วันดังกล่าวตนกำลังจะขึ้นรถแท็กซี่จากซอยสุขุมวิท 33
โดยตอนแรกจะเรียกอูเบอร์แต่ลูกสาวห้ามไว้เพราะผิดกฎหมาย
จึงตัดสินใจไปรอแท็กซี่ปกติ โดยก่อนจะเจอกับคู่กรณีตนก็ถูกปฏิเสธมาแล้ว 1
ครั้ง ก่อนจะพยายามเรียกรถคู่กรณีแต่ก็ถูกขับผ่านไปอีก
ตนจึงโกรธและบันดาลโทสะ ใช้เท้าสะกิดเรียก ซึ่งไม่ได้ตั้งใจให้แรง
แต่ก็ยอมรับว่าตนทำผิดในจุดนี้จริง บอย ถกลเกียรติ
เผยอีกว่า จากนั้นคนขับรถก็ลงมาด้วยสีหน้าโกรธ
ก่อนจะมีการถกเถียงกันตามในคลิปที่ปรากฏ
โดยเหตุที่ตนไม่หนีเพราะตัวเองก็มีส่วนผิด แต่พอได้ยินประโยคว่า
มายิงกันสักนัดไหม ตนจึงอยากรักษาชีวิตลูกสาว
ก่อนจะขอโทษและไหว้ไปตามที่โดนร้องขอ ก่อนจะเป็นคนเสนอค่าชดเชยได้ที่ 1,000
บาท เพื่อจบเรื่อง พร้อมทั้งเจรจาไม่ให้ติดใจกัน
ซึ่งตนเข้าใจว่าการโดนทุบรถคนขับก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ดี บอย ถกลเกียรติ ระบุว่า
ตนยอมรับว่าทำทรัพย์สินคู่กรณีเสียหายจริง
แต่อีกฝ่ายก็ผิดที่เปิดไฟว่างแต่ไม่รับ โดยเฉพาะการถามว่ายิงกันสักนัดไหม
ดูเป็นสิ่งที่เกินกว่าเหตุ
แต่ตนก็ไม่ได้ติดใจจะเอาความเพราะเรื่องนี้ผิดทั้งคู่
ซึ่งตนเชื่อว่าทั้งตนและคนขับต่างเป็นเหยื่อของระบบ
ที่กำลังจำกัดทางเลือกการโดยสารของประชาชน
ส่วนเรื่องของคดีความนั้นตนคงไม่เอาเรื่องอะไรกับคนขับแท็กซี่
เพราะตนเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน
อาจจะมีการลงบันทึกประจำวันเท่านั้นแต่ไม่ได้เอาผิดทางกฎหมายแต่อย่างใด
ภาพจาก
ทวิตเตอร์ @innvariety อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก