ผู้ต้องขังชาย 4 ราย แหกคุกเกาะสมุยทั้งโซ่ตรวน ก่อนหลบหนีเข้าสวนมะพร้าวของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังรวมกว่า 200 นายไล่ล่า สุดท้ายไปไม่รอด โดนรวบครบทั้งหมด
วันที่ 30 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด ภายหลังจากพบว่า มีผู้ต้องขังชาย 4 ราย ได้หลบหนีจากการควบคุมตัว โดยประกอบด้วยนายไพฑูรย์ หรือจุก หาญสุวรรณ์ ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1, นายนฤเบศร์ แผ่นทอง ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืน, นายพรอนันท์ มะณีศรี ข้อหามียาเสพติดประเภท 1 และ นายธนวัฒน์ บุญทัน ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยทั้งหมดอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเผลอ วิ่งหนีกระโดดข้ามกำแพงของศาลจังหวัดเกาะสมุย ก่อนหนีเข้าสวนมะพร้าวของชาวบ้าน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย นำโดย พ.ต.ท.วัชระ สมศรี สารวัตรสืบสวน สภ.เกาะสมุย พร้อมด้วยกำลังฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุยกว่า 200 นาย จึงออกติดตามไล่ล่า ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรอยเท้าของผู้ต้องขังทั้ง 4 ราย วิ่งหนีเข้าไปยังลำธารของน้ำตกบางเสาธง จึงได้แบ่งกำลังติดตามอย่างกระชั้นชิด โดยเจ้าหน้าที่พบเสื้อสีน้ำตาลของเรือนจำอำเภอเกาะสมุยที่ให้ผู้ต้องขังใส่ตกอยู่ใกล้กับลำธารของน้ำตก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้กระจายกำลังกันออกค้นหา ร่วมทั้งได้ตั้งด่านบริเวณท่าเรือเฟอร์รี่ และบนถนนสายหลักเพื่อป้องกันการหลบหนี
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องขังได้ 2 ราย ได้แก่ นายนฤเบศร์ และนายพรอนันท์ ที่บริเวณน้ำตกบางเสาธง โดยทั้งสองอยู่ในอาการอ่อนเพลีย บริเวณข้อเท้าทั้งสองข้างยังมีโซ่ตรวนของทางเรือนจำติดอยู่ แต่โซ่ได้ถูกตัดออกบางส่วนเพื่อให้ง่ายต่อการหลบหนี ขณะผู้ต้องขังที่เหลืออีก 2 ราย ยังคงหลบหนีอยู่ในความมืด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ระดมรถส่องสว่าง และวางกำลังตามจุดที่คาดว่าผู้ต้องขังทั้งสองจะหลบหนีไป
กระทั่งเวลาประมาณ 20.40 น. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายธนวัฒน์ และนายไพฑูรย์ ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในแคมป์คนงานร้าง ในซอยยุทธค้าไม้ หมู่ที่ 1 ต.มะเร็ต โดยผู้ต้องขังทั้งสองอยู่ในสภาพอิดโรยจากการหลบหนี และทั้งคู่ได้ขโมยชุดของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงมาเปลี่ยน เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ระหว่างหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้งสองราย กลับเข้าไปยังเรือนจำอำเภอเกาะสมุย เพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก