ตั้งกรรมการฯ สอบแล้ว ร.ต.ท. บุกเดี่ยวจี้ร้านทอง จ.นครศรีธรรมราช กวาดทองมูลค่าเกือบครึ่งล้าน เจ้าตัวยังยืนกรานปฏิเสธ
จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงสร้อยคอทองคำ ที่ร้านทองในพื้นที่ ต.บางรูป จ.นครศรีธรรมราช ได้ทองไปทั้งหมด 20 บาท โดยหลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี พบเบาะแสเจ้าของรถที่เผยว่ามีตำรวจยศ ร.ต.ท. ของ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นผู้ยืมรถคันดังกล่าวไปในช่วงที่เกิดเหตุ นำไปสู่การควบคุมตัวและอนุมัติหมายจับ โดยทางตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมารับตัวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : อนุมัติหมายจับ ร.ต.ท. ต้องสงสัย บุกเดี่ยวปล้นร้านทองเมืองคอน ล่าสุดยังไม่รับผิด]
ส่วนการดำเนินการทางวินัย ทางผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงไว้แล้ว 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของหลวงที่สูญหายไปหรือไม่
ส่วนที่ 2 คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้ต้องหากระทำผิดอาญา หากกระทำผิดจริงจะมีโทษถึงให้ออกหรือไล่ออก
ส่วนที่ 3 สอบสวนข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหาว่ามีการปล่อยปะละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำความผิดหรือไม่
ทั้งนี้ พ.ต.อ. กฤษณะ ยืนยันว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวอยู่ในกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว และเผยว่า พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกรอบของกฎหมายเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง มิใช่เป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ซึ่งหากการสืบสวนสอบสวนปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดต้องมีการดำเนินคดีทั้งทางอาญาและดำเนินการทางวินัยเพื่อให้สังคมเกิดความเชื่อมั่น
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN