สายป่าน อภิญญา เข้าให้ปากคำตามหมายเรียกรีวิว "เมจิก สกิน" เผยตรวจสอบแล้วมีเลข อย. ตามปกติ ยันแค่รับรีวิวสินค้าตามสคริปต์ ไม่มีเจตนาหลอกลวงประชาชน
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2561 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 11.00 น. นางสาวอภิญญา สกุลเจริญสุข หรือ สายป่าน นักแสดงที่ถูกหมายเรียกล็อตแรก จากการโฆษณาสินค้าในเครือ บริษัท เมจิก สกิน จำกัด เดินทางเข้ามาให้ปากคำและข้อมูล กับพลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยสายป่าน อภิญญา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ตนโพสต์คลิปวิดีโอ
และลงรูปคู่กับสินค้านั้น ตนไม่มีเจตนาที่จะหลอกหลวงประชาชน หรือเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะก่อนที่จะรีวิวสินค้า ตนได้นำมาทดลองกินเช่นกัน
และปกติการรับงานรีวิว ทางผู้จัดการจะเป็นคนรับงานให้
ซึ่งในส่วนของกรณีดังกล่าวนั้น ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นถึงเลข อย.
ว่ามีอยู่จริง แต่ไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นการสวมเลข อย. พร้อมยืนยัน
ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ตนเป็นแค่ลูกค้าที่รับเป็นพรีเซ็นเตอร์และพูดตามสคริปต์เท่านั้น
พลตำรวจเอก วิระชัย กล่าวว่า สำหรับสายป่านที่เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา เนื่องจากสายป่านมีการอัดคลิปและถ่ายภาพนิ่ง เพื่อรีวิวสินค้าในเครือเมจิก สกิน ส่วนจะมีความผิดหรือไม่นั้น จะต้องสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานอื่น ๆ ก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใด ๆ กับดารา แต่หากตรวจสอบพบว่ามีความผิด ก็จะผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ตามมาตรา 41 ข้อหาโฆษณาเครื่องสำอางด้วยข้อความอันเป็นเท็จ, พ.ร.บ.อาหาร ตามมาตรา 40 ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์อันเป็นเท็จ หรือหลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อโดยไม่สมควร, พ.ร.บ.อาหาร ตามมาตรา 41 การโฆษณาคุณประโยชน์หรือสรรพคุณเพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 ข้อหานำข้อมูลเท็จ หรือปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ขณะที่ล่าสุด ทางตำรวจได้ออกหมายเรียกดาราเพิ่มอีก 3 คน คือ นางสาวสุมณทิพย์ เหลืองอุทัย หรือ กุ๊บกิ๊บ มาพบวันที่ 9 พฤษภาคม เวลา 13.00 น. และนางสาวราศรี บาเล็นซิเอก้า หรือ มาร์กี้ พร้อมสามี นายภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ หรือ ป๊อก
พลตำรวจเอก วิระชัย ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายนั้น สามารถที่จะไปแจ้งความได้ ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ แต่ขอให้แจ้งความก่อนวันที่ 11 พฤษภาคม เพื่อรวบรวมผู้เสียหายและส่งสำนวนคดีให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง
ส่วนบริษัท เมจิก สกิน จำกัด จะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการสอบปากคำของพยาน สำหรับเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของผู้ต้องหานั้น ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการติดตาม ซึ่งหากใครทราบเบาะแสเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา สามารถแจ้งมาได้ ตำรวจจะทำการตรวจยึด เพื่อนำมาคืนผู้เสียหาย พร้อมยืนยันตำรวจทำงานกันตลอด