x close

เอ็ม จุดธูปสาบาน ขอให้มีอันเป็นไป ยันไม่ได้ร่วมกันฆ่าคน โดนตำรวจซ้อมจริง

ตำรวจซ้อมผู้ต้องหา

          เอ็ม ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น จุดธูปสาบานกลางรายการ ถ้าทำจริงขอให้มีอันเป็นไป ยันโดนตำรวจซ้อมคาโรงพักจริง รับวันเกิดเหตุแค่ช่วยมือฆ่าถอยรถ ได้ยินแต่เสียงปืน หันไปอีกทีก็พบคนเจ็บ

          จากกรณีที่ น.ส.องุ่น พุ่มราตรี อายุ 52 ปี ได้ออกมาโพสต์ร้องเรียนว่า นายพงศธร พุ่มราตรี หรือ เอ็ม อายุ 27 ปี ลูกชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ทำร้ายร่างกาย และบังคับให้รับสารภาพคดียิงคนตายที่วัดเกาะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำ จนสุดท้ายโดนตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : แม่โพสต์โวย ลูกชายโดน ตร.ซ้อมยับ ให้รับคดีฆ่าคนตาย ยันลูกเป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีเรื่อง]

          ล่าสุด (7 พฤษภาคม 2561) รายการเจาะประเด็น ทางช่อง 8 ดำเนินรายการโดย ต่วย ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ ได้สัมภาษณ์ นายพงศธร เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของข่าวทั้งหมด โดย นายพงศธร ได้จุดธูปสาบานว่าไม่ได้เป็นผู้ร่วมลงมือฆ่า พร้อมยืนยันว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม กระทืบคาโรงพักจริง

ตำรวจซ้อมผู้ต้องหา
- ช่วยเล่าเหตุการณ์ของวันที่ 28 เมษายน 2561 ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

          พงศธร : คืนวันเกิดเหตุคือวันที่ 28 เมษายน วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกแล้วไฟฟ้าในซอยดับ ก่อนเกิดเหตุผมขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในซอยนั้นคนเดียว พอถึงร้านขายของ ผมก็นั่งเล่นอยู่กับรุ่นน้องแล้วพบกับนายซิ่ง (คนที่ก่อเหตุ) ซึ่งผมก็รู้จักกับนายซิ่งมาก่อน เขาเป็นวัยรุ่นอยู่ละแวกนั้น พอหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที นายซิ่ง ก็ลุกขึ้นแล้วบอกว่าขอกลับก่อนนะ ผมก็ถามว่าพี่กลับยังไง เขาก็บอกว่าเอารถยนต์มาจอดอยู่หลังรถกระบะสีขาว

          ตอนนั้นเขามีอาการคล้ายกับคนเมา ผมก็ถามว่าเมามั้ยพี่ เดี๋ยวผมไปโบกรถให้ แล้วเขาก็ไปถอยรถออกมาสักระยะหนึ่งแล้วก็ไปชนกับกระถางต้นไม้หน้าบ้านของประชาชนที่อยู่ในซอยนั้นแตก ผมก็บอกเขาว่าพี่ชนกระถางต้นไม้แตก และรถพี่เป็นรอย ผมเลยคิดว่าสภาพเขาตอนนั้นไม่สามารถขับรถไปต่อได้ แล้วเขาก็ลงจากรถแล้วมาขอบคุณผม และผมก็เดินเข้าไปในรถเพื่อถอยให้เขา แล้วช่วงระยะหนึ่ง ผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ผมไม่ทราบว่ามีใครยิงปืน พื้นที่ตรงที่ผมเดินไปขยับรถให้เขาไม่ได้มีปากเสียง หรือการทะเลาะอะไรเลย เพราะกระถางต้นไม้ที่แตก ไม่ใช่ของผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต ขณะนั้นผมเลยพยายามจะหยุดรถ แล้วผมก็มองทางกระจกหลังเห็นว่านายซิ่งได้ยิงบุคคลหนึ่งเสียชีวิตซึ่งเขาขี่รถมอเตอร์ไซค์มา

- หลังจากเหตุการณ์ที่ได้เห็นว่ามีคนถูกยิง แล้วทำอย่างไรต่อไป

          พงศธร : พอสิ้นสุดเสียงปืนผมก็ไม่ได้ลงจากรถ ผมก็กลัวเหมือนกัน จนสักระยะหนึ่งผมก็ลงจากรถ แล้วถามว่า เฮ้ยพี่มีอะไร แล้วเขาก็เดินกลับไปที่รถ แต่ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร ส่วนผมก็เดินมุ่งหน้าไปตรงจุดที่มีคนถูกยิงที่มีรถมอเตอร์ไซค์ล้มอยู่ แต่ผมไม่ได้หันหลังกลับไปมองว่านายซิ่งเขาเดินตามผมมาหรือเปล่า จนกระทั่งมีกลุ่มเพื่อนของผู้ที่ถูกยิงเดินเข้ามาถามกันว่า มีอะไรเกิดขึ้น

- หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นเอ็มก็รอตำรวจมาจับเลยเหรอ

          เอ็ม : ใช่ครับ ผมก็อยู่รอตรงบริเวณนั้น รอจนตำรวจ สน.สายไหม มาถึงที่เกิดเหตุ ส่วนนายซิ่ง หายไปไหน ผมไม่ทราบ ที่ผมไม่หนีเพราะผมไม่ได้เป็นคนทำ ผมไม่ผิด ผมเองก็ยังบอกกลุ่มเพื่อนให้โทร. ตามรถฉุกเฉินมาช่วยคนเจ็บ แล้วพอตำรวจมาถึงก็เชิญตัวผมไปให้ปากคำเพราะอยู่ในเหตุการณ์

ตำรวจซ้อมผู้ต้องหา

- หลังจากที่ไปถึง สน.สายไหม

          พงศธร : พอไปถึงที่ สน. ผมก็นั่งรอ และมีชุดสืบสวนเข้ามาเชิญผมไปในห้องสืบสวน ในห้องนั้นจะมีท่านรองผู้กำกับ (ขอสงวนชื่อ) แล้วเขาสอบถามเหตุการณ์กับผมว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แล้วก็มี พ.ต.ท. เดินมาข้างหลังผม ซึ่งเขาพูดกับผมว่า มึงยังไม่ยอมรับอีกเหรอว่ามึงเป็นคนพามันมาฆ่า ผมก็บอกเขาว่า ผมไม่ได้พานายซิ่งมา ผมมาของผมอยู่แล้ว ตอนนั้นผมตกใจมาก แล้วเขาก็บอกว่ามึงจะบอกว่ามาคนเดียวได้ยังไง เพราะดูกล้องวงจรปิดแล้ว ว่าผมเป็นคนถอยรถคันนั้นออกมา ผมก็ยืนยันว่ามาคนเดียวจริง ๆ แต่ผมยอมรับว่าในภาพผมเป็นคนที่ช่วยถอยรถบีเอ็มคันนั้นจริง

- แล้วเขาทำร้ายคุณอย่างไร

          พงศธร : ก็พอผมพูดจบ พ.ต.ท. ที่ยืนข้างผม ก็ตบเข้าใบหน้าผมที่ด้านซ้าย แล้วผมก็ร่วงลงจากเก้าอี้ แล้วไปนอนอยู่ที่พื้น แล้วเค้าก็ใช้เท้ากระทืบที่ศีรษะผม 2 ครั้ง กระทืบที่ท้ายทอย 1 ครั้ง แต่ช่วงที่เค้ากระทืบตรงท้ายทอย ผมยกแขนบัง แต่ในที่นั้นไม่มีตำรวจท่านไหนพูดห้ามเลยครับ ผมมีบาดแผลที่ท้ายทอย


- หลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้วรับสารภาพไหม

          พงศธร : ผมก็ไม่รับสารภาพครับ ผมก็อยู่ที่ สน. ตั้งแต่วันที่ผมมาวันแรก จนกระทั่งตำรวจเอาหมายจับมาให้ผมดู และให้ผมเซ็นว่าผมเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ไม่ถูกจับตามหมาย ซึ่งพอผมเซ็นเอกสารเสร็จ เขาก็ใส่กุญแจมือผม แล้วผมก็อยู่ใน สน. ถึงวันที่ 30 เมษายน แล้วทางตำรวจก็ได้ส่งผมไปที่ศาลอาญา รัชดา แล้วผมก็ทำเรื่องประกันตัวออกมา ใช้เงินทั้งหมด 130,000 บาท แม่ผมต้องไปกู้หนี้ยืมสินเค้ามา พอประกันตัวออกมาจากศาล แล้วก็ไปโรงพยาบาลเลย ซึ่งผมไปตรวจร่างกายเลย ผมมีใบรับรองแพทย์ หมอระบุว่า ถูกทำร้ายร่างกาย กล้ามเนื้อคอและท้ายทอยอักเสบ (แสดงใบรับรองแพทย์) ออกให้ในวันที่ 30 เมษายน

          ต่อมาพิธีกรได้โฟนอินหาคุณแม่ องุ่น พุ่มราตรี แม่ของนายพงศธร

ตำรวจซ้อมผู้ต้องหา

- หลังจากที่แม่รู้ว่าลูกชายถูกซ้อม ตัดสินใจตอนไหนเพื่อขอความเป็นธรรม

          แม่ : หลังจากที่แม่เดินทางไปประกันตัวเอ็มออกมา ก็พาเขาไปหาหมอ แล้วพอได้ใบรับรองแพทย์ก็พาเค้าไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกาย แม่ยืนยันว่าลูกไม่ผิด และถูกซ้อม ถูกทำร้ายจริง ๆ ลูกอธิบายว่า ผมไม่ได้ทำไม่ได้เกี่ยวข้องเลยจริง ๆ แม่ก็เลยตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อขอความเป็นธรรม และจะดำเนินการเพื่อสู้คดีต่อไปค่ะ

- หลังจากที่เอ็มฟังทาง ผกก.สน.สายไหม แถลงข่าวแล้วรู้สึกอย่างไร

          พงศธร : ผมว่ามันไม่ตรงกับความจริง ที่ว่าผมทำเนียน จริง ๆ บ้านผมไม่ได้อยู่ในซอยนั้น แล้วรูปที่ตำรวจเขาโชว์ว่าผมไม่มีรอยแผล คือ ก่อนโดนทำร้าย เพราะถ้าซ้อมแล้วจะมีรอยทันทีเลยคงเป็นไปไม่ได้ ต่อจากนี้ผมก็ต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ครับ

          อย่างไรก็ดีทางรายการเจาะประเด็น ได้เตรียมอุปกรณ์เพื่อให้นายเอ็มสาบานในสิ่งที่พูดทั้งหมด

          พงศธร : (ยกมือไหว้) ต่อหน้าพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน ประชาชนทั้งประเทศไทย ผมขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าผมถูกทำร้ายร่างกายจริง ถ้าผมไม่ได้ถูกทำร้ายจริงจากนายตำรวจคนนั้น ขอให้ผมมีอันเป็นไป และเหตุการณ์วันนั้นผมไม่มีส่วนรู้เห็นจากการกระทำใด ๆ ทั้งสิ้น ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ตาย ผมบริสุทธิ์จริง ๆ ไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ รวมถึงขอแสดงความเสียใจกับญาติของนายซิ่งด้วย เพราะไม่คิดว่าจะด่วนตัดสินใจแบบนั้น

          ทั้งนี้สามารถติดตาม รายการเจาะประเด็น ได้ทาง ช่อง 8 ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 -14.55 น.

ภาพและข้อมูลจาก  รายการเจาะประเด็น


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เอ็ม จุดธูปสาบาน ขอให้มีอันเป็นไป ยันไม่ได้ร่วมกันฆ่าคน โดนตำรวจซ้อมจริง อัปเดตล่าสุด 8 พฤษภาคม 2561 เวลา 13:20:06 7,245 อ่าน
TOP