x close

วินาทีปะทะ ป้า VS เขต ไล่ยกกระถางต้นไม้ - ลั่นบ้านไม่เหม็น ทำความสะอาด 24 ชม.

           เพื่อนบ้านป้าหัวร้อนแฉ เคยถูกเอาผ้าอนามัยปาใส่บ้าน แถมโดนน้ำปัสสาวะสาดใส่ ขณะที่เขตดินแดงขนกระถางต้นไม้หน้าบ้านป้าแล้ว พร้อมส่งจดหมายเตือนเรื่องสัตว์เลี้ยง ด้านป้าโวยจะฟ้องเขต ฐานลักกระถางต้นไม้ เพราะด้านในมีพระบรรจุ ลั่นรักษาความสะอาด 24 ชม. ไม่เหม็นแน่นอน
เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

           จากกรณีเหล่าผู้อาศัยในซอยโพธิ์ปั้น 10 เขตดินแดง กรุงเทพฯ ได้ออกมาร้องเรียนวีรกรรมต่าง ๆ ของ นางสาวแสงระวี กันใจรุ่งโรจน์ ว่าได้สร้างความเดือดร้อนแก่เหล่าเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปลูกต้นไม้ขวางเส้นทางสัญจร สาดน้ำสกปรกใส่เพื่อนบ้าน เอาท่อประปาไปตีรถยนต์คนอื่น เลี้ยงสุนัขส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านตอนกลางคืน รวมไปถึงเคยเอาผ้าอนามัยใช้แล้วปาใส่บ้านข้าง ๆ เมื่อหลายปีก่อน ทำเอาทุกคนเอือมระอาไปตาม ๆ กัน (อ่านเพิ่มเติมที่ : ป้าป่วน VS เพื่อนบ้าน ซัดนัว เลี้ยงหมานับ 10 ทั้งที่อยู่ทาวน์เฮ้าส์ - เปิดธรรมะแผ่บารมี)

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

           ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ในเวลาประมาณ 10.00 น. นายอานนท์ ศรีทอง ผอ.เขตดินแดง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ประมาณ 15 นาย และเจ้าหน้าที่เทศกิจกับเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดอีกกว่า 20 คน ได้เดินทางไปที่ซอยโพธิ์ปั้น 10 จากการตรวจสอบพื้นที่พบว่ามีการปลูกต้นไม้หลายต้นไว้ที่หน้าบ้าน และกีดขวางการสัญจรจริง นายอานนท์จึงได้เรียกป้าแสงระวี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ออกมาเจรจากัน เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เพื่อนบ้านได้ร้องเรียนไว้ แต่ป้าแสงระวีไม่ยอมออกจากบ้านมาคุยด้วย กล่าวว่าจะออกมาในเวลา 11.00 น. ตามเวลาที่นัดหมายไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ได้นัดพูดคุยกับป้าแสงระวีเอาไว้แล้ว แต่ไม่ได้ระบุเวลาว่ากี่โมง แต่เจ้าหน้าที่ก็รอจนกระทั่งเวลา 10.45 น. และขอเจรจาอีกครั้ง

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

           อย่างไรก็ตาม เมื่อป้าแสงระวีได้ยินเสียงเรียก ก็ตะโกนออกมาจากในบ้านว่า "กลับไป ไม่ออก" ทีมเจ้าหน้าที่จึงจัดการขนย้ายกระถางต้นไม้หน้าบ้านป้าแสงระวี จำนวนกว่า 10 กระถาง ขึ้นรถบรรทุก หลังจากนั้นก็ได้นำรถกระเช้าเข้ามารื้อถอนต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจัดการกับต้นไม้นั้น ผอ.เขตดินแดง ก็ได้โทร. ติดต่อไปหาป้าแสงระวี เพื่อขอเจรจาอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ป้าแสงระวีดึงดันไม่เจรจาด้วย พร้อมกับขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายอานนท์ โทษฐานนำเจ้าหน้าที่มาขนย้ายต้นไม้หน้าบ้านไป แต่นายอานนท์ก็ไม่ได้กังวลใจ เพราะทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง และในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังโค่นต้นไม้อยู่นั้น ป้าแสงระวีก็โผล่หน้าออกมาจากบ้านครั้งหนึ่ง ตะโกนว่า "ถ้าโค่นจะดำเนินคดี" แต่เจ้าหน้าที่ก็โค่นต่อไป ซึ่งกว่าจะโค่นเสร็จก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และในเวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่ก็ขนย้ายต้นไม้ทั้งหมดเสร็จสิ้น ป้าแสงระวียังคงไม่ยอมออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางกลับ

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน
นายอานนท์ ศรีทอง ผอ.เขตดินแดง โทร. ไปขอเจรจากับ ป้าแสงระวี

           ด้าน นายอานนท์ กล่าวว่า เขตดินแดงได้การดำเนินการใน 2 กรณี ได้แก่ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ว่าด้วยเรื่องการติดตั้งจัดวางกองวัสดุต่าง ๆ บนถนน ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ว่าด้วยเรื่องเหตุรำคาญ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่น เสียง การเลี้ยงสัตว์ สำหรับวันนี้เน้นไปที่ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ให้เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายต้นไม้หน้าบ้านออก ส่วน พ.ร.บ.การสาธารณสุข ทางเขตได้ส่งจดหมายถึงป้าแสงระวี เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แจ้งให้ลดจำนวนสัตว์เลี้ยงและทำความสะอาด หากไม่จัดการแก้ไขภายใน 15 วัน จะดำเนินคดี โดยจะมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท เบื้องต้นทางเขตได้ประสานงานกับศูนย์พักพิงสุนัขของ กทม. ไว้แล้ว เนื่องจากเป็นห่วงสุขภาพสุนัขที่ป้าแสงระวีเลี้ยงไว้ แต่จะต้องมีการเจรจากับป้าแสงระวีก่อน เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาต่อไป

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

           สำหรับปัญหาต่าง ๆ ที่เพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนจากป้าแสงระวีนั้น นายดริ้ง อายุ 23 ปี อดีตเพื่อนบ้านของป้าแสงระวี เล่าว่า ครอบครัวตนได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ข้างบ้านป้า เมื่อ 13 ปีก่อน แม่ตนเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่แม่กำลังตั้งท้อง ป้าเคยเดินมาด่าทอแม่ เคยนำขวดแก้วปาใส่ประตูบ้านจนเป็นรอย บางครั้งป้าถึงขั้นเอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วปาเข้ามา และตอนที่ป้าเป็นร่างทรง การเดินทางเข้า-ออกซอยจะลำบากมาก เพราะป้าจะปิดซอยไปครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ ป้าได้ทุบหน้าต่างชั้นบนบ้านตัวเองออก เมื่อคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเผลอหันไปมอง จะเห็นการทำกิจวัตรส่วนตัวต่าง ๆ ของป้าได้อย่างชัดเจน พฤติกรรมของการสาดน้ำของป้าก็เป็นเรื่องจริง มีทั้งสาดน้ำปัสสาวะสุนัขและน้ำปัสสาวะของป้าเอง สุนัขที่ป้าเลี้ยงไว้ก็มักจะส่งเสียงเห่าหลัง 20.00 น. รบกวนการนอนหลับมาก เหล่าเพื่อนบ้านที่อาศัยในซอยนี้มาเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี ต่างก็ต่อสู้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรป้าได้ ตนกับครอบครัวจึงตัดสินใจย้ายออก

           ด้าน น.ส.ดา (นามสมมติ) เพื่อนบ้านปัจจุบัน กล่าวว่า ตนเคยอาศัยอยู่ในบ้านข้าง ๆ ป้ามาเกือบ 2 ปี แต่ย้ายออกไปเมื่อปีที่แล้ว เพราะทนพฤติกรรมไม่ได้ วันนี้ที่เขตมาดำเนินการย้ายต้นไม้ออก ตนก็รู้สึกดีมากเพราะจะได้สัญจรสะดวกขึ้น ทำให้ทัศนียภาพดีกว่าเดิม ทั้งนี้ตนก็อยากให้ลูกหลานของป้าเข้ามาดูแลบ้าง

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

           ด้านนางจันทร์ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านอีกคน เปิดเผยว่า ได้เดินออกมาดูการทำงานของเขตตั้งแต่ต้น ยอมรับว่ารู้สึกพอใจมาก เพราะเจ้าหน้าที่ได้ยกต้นไม้และตัดต้นไม้หน้าบ้านป้าแสงระวีออกไป ทำให้ถนนโล่งขึ้น และไม่ได้ทำแค่บ้านของป้าเท่านั้น บ้านหลังอื่น ๆ ในซอยที่มีต้นไม้ยื่นล้ำออกมาบนถนน เจ้าหน้าที่ก็จัดการตกแต่งด้วย ตนรู้สึกว่าเป็นการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ค่อยพอใจที่เจ้าหน้าที่เขตไม่สามารถเข้าไปในบ้านป้าได้ ทำให้ตอนนี้ยังมีกลิ่นเหม็นจากสัตว์เลี้ยงอยู่ ตนจึงอยากให้ทางสาธารณสุขเข้ามาดูแลสัตว์เลี้ยง และดูแลความสะอาดภายในบ้านของป้า สำหรับกรณีที่ป้าแสงระวีเคยไปแจ้งความไว้ว่าถูกลูกเขยตนขับรถชนนั้น นางจันทร์ กล่าวว่า ตนไม่กังวล เพราะมีหลักฐาน ส่วนเรื่องที่ป้าแฉว่า ตนยืมเงินป้าไป 600,000 บาทนั้น เรื่องนี้คิดว่าทุกคนคงเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง เพราะจากสภาพบ้านที่ป้าอาศัยอยู่นั้น ไม่น่าจะมีเงินให้ตนยืมได้ถึง 600,000 บาท

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

           หลังจากนั้น ในช่วงเย็น ป้าแสงระวีก็เปิดเผยว่า ตนไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เรียบร้อยแล้ว โดยแจ้งมาตรา 157 เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ บุกรุกคุกคามชิงเอาทรัพย์สินโดยไม่ชอบต่อกฎหมาย เพราะกระถางต้นไม้ที่เจ้าหน้าที่เขตขนไปนั้น ด้านในมีพระบูชาอยู่เป็นจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 10,000 บาท มีตั้งแต่ หลวงพ่อทวดทองเหลืองรมดำ 1 องค์ ขนาด 9 นิ้ว, พระเจ้าตากสินทองเหลือง 2 องค์ ขนาด 1 คืบ, ปู่ท้าวเวสสุวรรณทองเหลือง 2 องค์ ขนาด 1 คืบ, นางกวัก 1 องค์, หลวงพ่อบัวเข็ม 1 องค์, หมูหยกสีเขียว 1 ตัว, ฮกลกซิ่ว 4-5 องค์,  กบทอง 1 ตัว, เต่าหลวงปู่นาย 1 ตัว, เต่าหลวงปู่หลิว 1 ตัว และกุมารทองอีก 3-4 ตน

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน
กระถางต้นไม้ที่มีพระ

           ป้าแสงระวี กล่าวว่า ของทั้งหมดในกระถางคือชีวิตจิตใจของตน แต่กลับถูกลักเอาไปต่อหน้าต่อตา ทั้งที่ตนพยายามจะห้ามปรามแล้ว ตนจึงจะเอาผิดทุกคนที่มาในวันนี้ ทั้ง ผอ.เขต เจ้าหน้าที่ที่มาขนย้ายต้นไม้ รวมทั้งเพื่อนบ้านที่ไปร้องเรียนกับทางเขต ส่วนผู้สื่อข่าวนั้นตนให้อภัย และจะกันไว้เป็นพยาน เพราะเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ โดยตนจะใช้คลิปวิดีโอที่สื่อบันทึกเอาไว้ขณะที่เขตมาขนย้ายต้นไม้หน้าบ้านตนเป็นหลักฐานด้วย สำหรับกรณีที่เขตส่งจดหมายแจ้งให้ลดจำนวนสุนัข และทำความสะอาดบ้านนั้น ป้าแสงระวี กล่าวว่า ตนเซ็นรับทราบแล้ว ตอนนี้ลดจำนวนสุนัข จาก 40-50 ตัว เหลือแค่ 11 ตัว ลดอีกไม่ได้แล้ว เพราะเป็นตัวแทนของตัวที่ตายไป และหากทางเขตจะมารับสุนัขไป ตนไม่ไว้ใจ เพราะไม่เชื่อว่าจะเลี้ยงได้ดีกว่าตน ส่วนเรื่องทำความสะอาด ตนทำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เรื่องกลิ่นมั่นใจว่าไม่มีแน่นอน อาจจะมีแค่ตอนที่เขตมายกกระถางออกไป เพราะเจ้าหน้าที่ขุดเจอซากสุนัขที่ตนฝังไว้ในกระถาง

เพื่อนบ้านทะเลาะกัน

           ป้าแสงระวี กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่ได้โกรธ แต่ผิดหวังในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะเหมือนมาคุกคามตนโดยมิชอบ นอกจากนี้แล้ว ป้าแสงระวี ยังได้ฝากคลิปวิดีโอให้ทีมข่าวนำไปเผยแพร่เพื่อให้ถึงบุคคลที่มาคุกคาม โดยในคลิป ป้ากล่าวเป็นสุภาษิตว่า "ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้า เอ็งอย่ามาโวย"


เพื่อนบ้านทะเลาะกัน
ป้าแสงระวี ฝากถึงคนที่คุกคาม "ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้า เอ็งอย่ามาโวย"

ภาพและข้อมูลจาก ทุบโต๊ะข่าว AMARIN TVHD, amarintv.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วินาทีปะทะ ป้า VS เขต ไล่ยกกระถางต้นไม้ - ลั่นบ้านไม่เหม็น ทำความสะอาด 24 ชม. อัปเดตล่าสุด 30 พฤษภาคม 2561 เวลา 16:04:34 79,286 อ่าน
TOP