แบบนี้ก็ได้เหรอ ?! คนนับหมื่นแห่ลงชื่ออยากดื่มน้ำมัมมี่ ในโลงศพอียิปต์โบราณ ควรเอามาทำเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง ช่วยให้ซึมซับพลังอำนาจอย่างเต็มที่
การค้นพบโลงศพหินแกรนิตสีดำเก่าแก่ในอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์
ได้สร้างความฮือฮาไปทั้งโลก หลาย ๆ
คนเชื่อว่ามันอาจจะมีคำสาปอาถรรพ์ซ่อนอยู่ จึงไม่อยากให้เปิดมันออก
เพราะเกรงว่าจะเกิดเภทภัยเลวร้ายเหมือนในภาพยนตร์ แต่อย่างไรก็ตาม
นักโบราณคดีตัดสินใจเปิดฝาโลงออกดูแล้ว ซึ่งก็ไม่พบคำสาปอะไรแต่อย่างใด
มีแต่โครงกระดูก 3 ร่าง เน่าเปื่อยอยู่ในน้ำที่ขังอยู่ภายในโลง (อ่านเพิ่มเติมที่ : นักโบราณคดีอียิปต์ ไม่หวั่นคำสาปอาถรรพ์
ลุยเปิดโลงศพเก่า พบ 3 ร่างเน่าเปื่อย)
ตามปกติแล้ว เมื่อมีข่าวการค้นพบโลงศพ มัมมี่ หรือโครงกระดูกเช่นกรณีนี้ ผู้คนจะพุ่งเป้าความสนใจไปที่โครงกระดูกที่พบ ว่าเป็นใคร อยู่ในยุคใด และมีความสำคัญอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนหนึ่งกลับสนใจ "น้ำ" ที่ขังอยู่ในภายในโลงศพนั้น และเขาสนใจมาก ชนิดที่อยากได้มันมาดื่มเลยทีเดียว ......
จากการรายงานของเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ระบุว่า นักโบราณคดีพบโครงกระดูกทั้ง 3 ร่าง
ที่น่าจะเคยเป็นมัมมี่มาก่อน กำลังเน่าเปื่อย
แช่น้ำที่ขังอยู่ภายในโลงศพหินแกรนิต
น้ำดังกล่าวมีลักษณะเป็นของเหลวสีแดง-น้ำตาล
เป็นน้ำเสียที่ไหลซึมเข้าสู่โลงผ่านทางรอยแตกด้านข้าง
เมื่อเอ่ยถึงคำว่าน้ำเสีย หรือน้ำเน่า
กลิ่นของมันย่อมไม่เป็นที่พึงประสงค์อยู่แล้ว
เมื่อผสมผสานเข้ากับมัมมี่เน่าเปื่อยอายุ 3,000 ปี
มันน่าจะยิ่งรุนแรงตลบอบอวลเพิ่มจากเดิมไปหลายเท่า
แต่ชายคนหนึ่งผู้มีชื่อว่า อินเนส แม็คเคนดริก ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
และสนอกสนใจอยากลองชิมน้ำในโลงนี้ดูสักครั้ง
ภาพจาก เว็บไซต์ change.org
ถึงแม้ว่าการดื่มน้ำดังกล่าวดูจะไม่ใช่ไอเดียที่ดีสักเท่าไหร่นัก แต่กลับมีผู้คนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ชนิดที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว โดยมีคนมาร่วมลงนามขอซดน้ำมัมมี่สักอึกสองอึกกับอินเนสไปแล้วกว่า 16,700 คน แน่นอนว่าหลาย ๆ คนคงต้องสงสัยว่าอินเนสนึกครึ้มอะไรขึ้นมาถึงได้อยากดื่มอะไรแบบนั้น ซึ่งเขาก็ได้เปิดใจให้ความเห็นไว้ว่า การค้นพบโลงศพโบราณครั้งนี้มันสร้างความตื่นเต้นไปทั่วโลก เขาและเพื่อน ๆ เชื่อว่ามันคือสัญลักษณ์แห่งความหวัง และมันเป็นโอกาสที่จะได้ขอขมาเทพอียิปต์
"ความหวังใด ๆ ในโลกกำลังดับมอดลง และอนาคตของโลกใบนี้ก็กำลังจะถูกทำลายด้วยหัตถ์ของเหล่าเทพเจ้าอียิปต์ สาเหตุเพราะมนุษย์ได้เปิดโลงศพเก่าแก่โบราณออกมา ทำให้คำสาปเลวร้ายจากเทพเจ้าออกมาสู่โลก และมันส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเราทุกคน คำสาปนั้นก็คือปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ สภาพอากาศและภัยพิบัติต่าง ๆ เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง "
"และเมื่อโลงศพอาถรรพ์นั้นถูกเปิดออก
คำสาปลึกลับดำมืดก็ได้เปิดออกมาด้วย
สิ่งที่พบคือโครงกระดูกในสภาพสวยงามใสปิ๊ง ซึ่งมันแปลกมาก
เพราะมันแช่น้ำอยู่ มันควรจะยุ่ยกว่านี้ อย่างไรก็ตาม
ผมเชื่อมั่นมากว่าความหวังยังคงมีอยู่
ถ้าเราเอาน้ำในโลงนั้นมาทำเป็นเครื่องดื่มชูกำลังคาเฟอีนสูง
อัดลมเข้าไปด้วยสักหน่อย
มนุษยชาติก็น่าจะมีชีวิตรอดผ่านพ้นยุคมืดแห่งความทุกข์นี้ไปได้อย่างแน่นอนครับ"
อินเนส กล่าว
ทั้งนี้อินเนสได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า
เขารู้สึกตื้นตันมากที่ผู้คนนับหมื่นสนใจเข้าร่วมแคมเปญกับเขาด้วย
และเขาก็เชื่อมั่นมากว่า ถ้าเอาน้ำในโลงนั้นมาทำเครื่องดื่มได้จริง ๆ
ภัยพิบัติเลวร้ายใด ๆ ในโลก ก็คงหมดสิ้นลงได้แน่ ๆ