x close

ไม่หวั่นกลับคุก ชายหื่นฉุดเด็ก ลากเข้าห้องเรียนหวังข่มขืน พบประวัติเคยฆ่าเมียยัดท่อ

 

              ตำรวจนครปฐม สั่งเปรียบเทียบ DNA ชายหื่นฉุดเด็ก ป.6 ลากเข้าห้องเรียนหวังข่มขืน กับคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนหญิงสูงอายุในหลายท้องที่ คุ้ยประวัติเคยฆ่าโหดภรรยายัดท่อเมื่อปี 55 จัดเป็นบุคคลอันตราย !

               ความคืบหน้าจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จับกุมตัว นายสุรพล พินทอง อายุ 39 ปี หลังบุกเข้าไปฉุดนักเรียนหญิงชั้น ป.6 อายุ 11 ขวบ พยายามจะข่มขืนภายในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง แต่โชคดีเหยื่อดิ้นหลุดหนีเอาตัวรอดมาได้ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อประมาณปี 2556 ศาลตัดสินจำคุก 7 ปี แต่ได้รับการปล่อยตัวออกจากคุกมาในปี 2560 หลังต่อสู้คดีว่าตัวเองมีอาการป่วยทางจิต นั้น (อ่านข่าว : รวบชายหื่น จับเด็ก 11 ขวบ ลากเข้าห้องเรียน-พยายามข่มขืน พบเพิ่งพ้นคุกได้ไม่ทันไร)

               ล่าสุด (23 กันยายน 2561) รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.ต. คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนท้องที่นำตัวนายสุรพลไปที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 (พฐ.7) เพื่อเก็บ DNA ตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับ DNA ของคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนหญิงสูงอายุในหลายท้องที่ทั้งใน จ.นครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากรูปพรรณสัณฐานดูสอดคล้องจากคำบอกเล่าของหญิงสูงวัยหลาย ๆ คน
 
 ชายหื่นฉุดเด็ก
               สำหรับประวัติอาชญากรรมของนายสุรพล ที่พบว่าเคยก่อเหตุฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพหญิงถูกฆ่ายัดท่อระบายน้ำในป่าหมู่บ้านร้างพื้นที่ ต.ศรีมหาโพธิ์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงไปไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุพบศพหญิง ทราบชื่อคือ นางฐิติพร อายุ 28 ปี เป็นคนพิการขาข้างซ้ายลีบ เคยเข้ารักษาตัว ฝากท้องที่โรงพยาบาลห้วยพลู พักอาศัยอยู่กับสามีและลูก 1 คน ผู้ตายเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.นครชัยศรี และมีนิสัยชอบเที่ยวกลางคืน
 
               ขณะที่พบศพนั้น นายสุรพล แสดงตัวว่าเป็นสามี พร้อมแสดงความเศร้าเสียใจ ให้ปากคำกับตำรวจ อ้างว่าก่อนเกิดเหตุได้ขังภรรยาไว้ในบ้าน เพราะไม่อยากให้ออกเที่ยวกลางคืนในช่วงที่ตนเองไม่อยู่ต้องขับรถของโรงงานผลิตเต้าหู้หลอดไปส่งของที่ กรุงเทพฯ กระทั่งเช้าวันถัดมากลับมาบ้านไม่พบภรรยา และพบว่าเหล็กดัดหน้าต่างมีรอยงัด จึงคิดว่าภรรยางัดหน้าต่างหนีออกไป ตนออกตามหาอยู่ครึ่งวันไม่พบตัว มาพบก็ตอนเป็นศพแล้ว

               ครั้งนั้น ชุดสืบสวนหลายหน่วยได้ลงมาร่วมสืบสวน และพบพิรุธจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากพบรอยคราบน้ำมันเครื่อง และรอยล้อรถจักรยานยนต์ที่ทิ้งรอยไว้ไม่นาน เมื่อไปตรวจที่บ้านของเหยื่อ พบร่องรอยงัดเหล็กดัดหน้าต่าง แต่ไม่พบหลักฐานอื่น ๆ และพบรถจักรยานยนต์ของนายสุรพล จอดอยู่มีคราบน้ำมันเครื่องรั่วหยด

 ชายหื่นฉุดเด็ก
 
               จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเค้นสอบนายสุรพลอีกครั้ง สุดท้ายก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าภรรยาตัวเอง หลังออกตามหาด้วยความโมโห และโทรศัพท์ไปหาภรรยาหลายครั้ง แต่ไม่รับสาย จนกระทั่งใกล้เที่ยงวันเจอภรรยาอยู่แถวตลาดท่านา จึงเรียกให้ภรรยาขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และทะเลาะกันตลอดทาง
 
               ด้วยความโมโห ประกอบกับความหึงหวง และมีอารมณ์ทางเพศ จึงขี่รถจักรยานยนต์พาภรรยาเข้าไปในหมู่บ้านร้างจุดที่พบศพ แต่ภรรยายังไม่หยุดโวยวาย ด้วยความโมโหจึงตบหน้า ชกหน้า และจับรัดคอจนนิ่งไป เมื่อเขย่าเรียกภรรยาจนฟื้น จึงสอบถามว่าหายไปไหนมา ภรรยาก็ไม่ยอมตอบทำให้เพิ่มความโมโห จึงจับภรรยาฉีกเสื้อผ้า หวังจะมีเพศสัมพันธ์ให้หายโกรธ แต่กลับถูกภรรยาด่าหนักขึ้นอีก จึงบีบคอภรรยาจนแน่นิ่ง และคว้าท่อนไม้กระถินแถวนั้น แทงที่ท้องกับลำคอ พร้อมใช้ยกทรงของภรรยารัดคอซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างไปยัดใส่ท่อน้ำ จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับไปนอนที่ห้องเช่า รอตำรวจมาแจ้งเรื่องพบศพภรรยา ตนเองจึงแกล้งร้องไห้เสียใจคร่ำครวญ แต่ก็ไม่รอด ตกเป็นผู้ต้องฆ่าคนตายดังกล่าว

               จากคดีดังกล่าวนายสุรพลติดคุกราว 5 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุฉุดนักเรียน ป.6 และถูกจับดังกล่าว ขณะที่เจ้าตัวก็ไม่ได้แสดงท่าทีวิตกกังวลที่ต้องกลับเข้าไปในคุกอีกแต่อย่างใด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไม่หวั่นกลับคุก ชายหื่นฉุดเด็ก ลากเข้าห้องเรียนหวังข่มขืน พบประวัติเคยฆ่าเมียยัดท่อ อัปเดตล่าสุด 27 กันยายน 2561 เวลา 18:25:58 16,068 อ่าน
TOP