พรรคอนาคตใหม่ เปิดเอกสาร เผย 41 รายชื่อ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ถือหุ้นสื่อ หลังเคยยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ แต่เรื่องเงียบ
สืบเนื่องจากกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่
ได้มีการยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณี ส.ส.
ฝ่ายรัฐบาลเข้าข่ายถือหุ้นสื่อ ซึ่งเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม
ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ปิยบุตร ยื่นหนังสือร้องตรวจ 30 ส.ส.
ถือหุ้นสื่อ - คุณสมบัติผู้ถูกเสนอชื่อนายกฯ)
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (11
มิถุนายน 2562) มีรายงานว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นเรื่องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
กรณี 41 ส.ส. ของพรรคฝ่ายรัฐบาล เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามต่อการเป็น ส.ส.
เกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อหรือไม่
โดยมีการเข้าชื่อร้องไปแล้วครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ส.ส. จำนวน 30
คน และเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน อีก 11 คน รวมทั้งหมด 41 คน
เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณานั้น
แต่ตอนนี้ เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
ทั้งนี้
จึงอยากเรียกร้องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า
ช่วยดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป คือส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมา 7
วันแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเหนี่ยวรั้งรออะไร กรณีนี้
ถ้าส่งต่อเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ถ้าเทียบเคียงกับกรณีของคุณธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น
ที่จะออกคำสั่งว่ารับเรื่องนี้ไว้สู่กระบวนการพิจารณาหรือไม่
และจะสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่
อย่างไรก็ตาม
หากเรื่องนี้ผ่านพ้นไปเรื่อย ๆ ยังไม่มีการส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
แสดงว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ
เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีดุลยพินิจใด ๆ ทั้งสิ้น
ต้องส่งต่อ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับก่อน ๆ ก็เป็นอย่างนี้ คือ
ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นเสมือนบุรุษไปรษณีย์ หมายความว่า
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เป็นประมุขฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น
เมื่อมีสมาชิกกลุ่มหนึ่งสงสัยว่ามีสมาชิกขาดคุณสมบัติ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ก็มีหน้าที่ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ส่ง
พร้อมกันนี้
ทางพรรคอนาคตใหม่ ได้มีการเผยแพร่เอกสารยืนยันถึง 41 รายชื่อ ส.ส.
ฝ่ายรัฐบาล ที่ยังคงถือหุ้น หรือเป็นเจ้าของกิจการสื่ออยู่อย่างชัดเจน เช่น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ
ที่ถือหุ้นเป็นเจ้าของกิจการซึ่งวัตถุประสงค์ข้อ 19 ระบุชัด และ ในเอกสาร
บอจ. 5 ก็ยังปรากฏการถือหุ้นชัดเจน และนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ดูรายชื่อทั้ง 41 ส.ส. ถือหุ้นสื่อ คลิก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก