เมียน้ำตาซึม ผัวจ่ายครึ่งล้านเพื่อลักลอบไปทำงานในอังกฤษ สุดท้ายกลายเป็นศพอยู่ท้ายรถบรรทุก เผยมีญาติโทร. มาแจ้งข่าวร้ายให้พ่อผัวรู้ สุดเศร้า หมดสิ้นความหวัง แถมมีหนี้ก้อนโตที่ต้องจ่าย
จากกรณีสะเทือนขวัญ พบศพ 39 ศพปริศนา ท้ายรถพ่วงรถบรรทุกในนิคมอุตสาหกรรมวอเตอร์เกลด เมืองเกรย์ส เขตมณฑลเอสเซกซ์ สหราชอารณาจักร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน และทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 4 ราย รวมถึง โม โรบินสัน ชายคนขับรถบรรทุกศพ ตั้งข้อหาฆาตกรรม ฟอกเงิน สมรู้ร่วมคิดนำคนเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์
ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่าเหยื่อที่อยู่ท้ายรถบรรทุกคันดังกล่าว บางส่วนอาจเป็นชาวเวียดนาม โดยมีญาติของ 6 ครอบครัว ออกมาเปิดเผยถึงการลักลอบเข้าเมืองของเหยื่อ หนึ่งในนั้นคือ ฟาม ถิ จ่า มี สาววัย 26 ปี ที่ได้ส่งข้อความสุดท้ายมาหาพ่อแม่ บอกว่า หนูกำลังจะตาย...หนูหายใจไม่ออก (อ่านข่าว : ข้อความสุดท้าย ลูกเอ่ยอำลา แม่จ๋า...หนูหายใจไม่ออก คาดเป็นเหยื่อรถบรรทุกมรณะ 39 ศพ)
วันที่ 26 ตุลาคม 2562 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า มีครอบครัวชาวเวียดนามออกมาให้ข้อมูลมากขึ้น เกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวที่เชื่อว่าพวกเขาน่าจะเป็นหนึ่งใน 39 ศพ ที่ถูกพบอยู่ท้ายรถบรรทุกดังกล่าว โดย ฮวาง ที ถวง (Hoang Thi Thuong) เล่าว่า สามีของเธอ เหงียน ตินห์ ตู (Nguyen Dinh Tu) ได้จ่ายเงินเป็นจำนวนถึง 11,000 ปอนด์ (ราว 425,000 บาท) เพื่อให้ได้เข้าไปทำงานที่อังกฤษ แต่เธอกลับไม่ได้ยินข่าวจากสามีอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมา เหงียน ตินห์ ตู เคยลักลอบเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายในโรมาเนียและเยอรมนีมาแล้ว ก่อนที่เขาจะตกงาน กระทั่งล่าสุด เหงียน ตินห์ ตู จึงได้มาขอเงินจากภรรยา เพื่อจะไปเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยทำให้เขาลักลอบเข้ามาทำงานในอังกฤษได้
"ฉันติดต่อเขาไม่ได้อีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ตอนนี้ฉันมีหนี้ก้อนโตที่ต้องจ่าย หมดสิ้นความหวัง ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรแล้ว" ฮวาง ที ถวง กล่าวทั้งน้ำตา
ขณะที่พ่อของ เหงียน ตินห์ ตู มั่นใจว่าลูกชายจะต้องเป็นหนึ่งใน 39 ศพที่พบอยู่ท้ายรถบรรทุก โดยชี้ว่า ญาติของเขาที่ทำงานอยู่ในอังกฤษ ได้โทร. มาแจ้งข่าวร้ายให้เขาทราบ บอกว่า เหงียน ตินห์ ตู อยู่ในรถบรรทุกคันที่พบศพ ซึ่งจริง ๆ แล้วญาติกลุ่มนี้ควรจะไปรับตัว เหงียน ตินห์ ตู ยังจุดที่รถจะนำคนมาปล่อยทิ้งไว้ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด
"พวกเขารู้เส้นทาง เวลา และจุดปล่อยคนลงจากรถ ดังนั้นหากพวกเขาพูดแบบนี้ มันต้องเป็นความจริง และผมก็คิดว่ามันเป็นความจริง เพราะผมไม่ได้ยินข่าวอะไรจากลูกชายอีกเลย" พ่อของเหงียน ตินห์ ตู เผยด้วยความโศกเศร้า
ทั้งนี้ สำนักข่าวบีบีซี เผยว่า สำหรับศพของกลุ่มคนลักลอบเข้าเมืองที่ถูกพบอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า หรือสวมใส่เสื้อผ้าเพียงบางชิ้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายออกจากท้ายรถบรรทุกเพื่อนำไปชันสูตรแล้ว อย่างไรก็ตามการระบุตัวตนผู้เสียชีวิตนับเป็นเรื่องยาก เพราะเหยื่อมีเอกสารที่ระบุตัวน้อยมาก การพิสูจน์ตัวตนของพวกเขาจึงขึ้นอยู่กับการตรวจลายนิ้วมือ การตรวจดีเอ็นเอ และร่องรอยอื่น ๆ บนร่างกายเช่นรอยสักและรอยแผล เท่านั้น
