ตำรวจ เผย พยานหลักฐานชี้ แม้ว เผานั่งยางแฟน ม.6 ทำคนเดียว เหตุพลั้งมือฆ่ากลัวความผิด มีแรงกระตุ้นให้นำร่างไปคนเดียวได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ake Srisuwan
จากกรณีนายแม้ว อายุ 18 ปี นักเรียน ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ก่อเหตุสุดสะเทือนขวัญหลังทะเลาะกับแฟนสาวเรื่องหึงหวงจึงบีบคอแฟนสาวจนเสียชีวิต ก่อนนำศพผู้ตายขึ้นรถกระบะนำไปเผานั่งยางอำพรางในป่าลึก ซึ่งเจ้าตัวยอมรับสารภาพก่อเหตุคนเดียวทำไปเพราะความหึงหวง แต่ครอบครัวผู้ตายไม่เชื่อว่าลงมือคนเดียวนั้น
อ่านข่าว : ไอ้แม้ว ยอมเปิดปาก ทำไมถึงเผานั่งยางแฟนสาว ม.6 ทั้งที่หมั้นกันแล้ว
อ่านข่าว : ไอ้แม้ว ยอมเปิดปาก ทำไมถึงเผานั่งยางแฟนสาว ม.6 ทั้งที่หมั้นกันแล้ว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ล่าสุด (11 มีนาคม 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งโสภา เผยความคืบหน้าทางคดีว่า ได้สอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งออกสืบสวนหาข่าวในเส้นทางที่ผู้ต้องหาให้การจนถึงจุดที่พบศพเป็นไปตามที่เสนอข่าวไปแล้ว โครงกระดูก มือถือ อุปกรณ์ ดีเอ็นเอ ชัดเจน
โดยเฉพาะก่อนเกิดเหตุ มีคนพบเห็นว่าผู้ต้องหาอยู่กับคนตาย ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก็รวบรวมได้ครบ มีอะไรเพิ่มเติมต้องรอผลยืนยันอีกครั้งหนึ่ง รายละเอียดสาเหตุการตาย ร่องรอยที่รถ ที่เกิดเหตุ ก็ได้ดำเนินการมีความคืบหน้ามาก ส่วนหนึ่งผู้ต้องหามามอบตัวด้วยทำให้ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ชัดเจน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ส่วนมูลเหตุที่นายแม้วมามอบตัวและรับสารภาพ เชื่อว่าเกิดจากความกดดันจากทางญาติผู้ตาย ด้วยพยานหลักฐานที่ทางญาติฝ่ายหญิงแจ้งความลูกสาวหายไป ประกอบกับช่วงก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาอยู่กับผู้ต้องหา ในการสอบสวนผู้ต้องหาไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้ตายไปไหน อย่างไร พยานหลักฐานจึงพุ่งมาที่ตัวนายแม้ว จึงกดดันทำให้ต้องยอมรับผิด
ด้านโทษค่อนข้างรุนแรงคือเจตนาฆ่า และปิดบังซ่อนเร้นศพ การมอบตัวความผิดโทษน้อยลง ทางตำรวจได้พิสูจน์รถกระบะที่นำศพไปทิ้ง เป็นรถปู่ของผู้ต้องหา ที่เคยใช้ขับเป็นประจำ ส่วนล้อยางอยู่บนรถอยู่แล้วไม่ได้ซื้อแต่อย่างใด แม้ทางตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การทั้ง 100% แต่หลักฐานและพยานเวลานี้สอดคล้องกันว่า ผู้ต้องหาลงมือทำเพียงคนเดียวเท่านั้น
ขณะที่ พล.ต.ต. ชัยวัฒน์ ฉันทวราลักษณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ต้องหาพาร่างผู้ตายลงจากรถกระบะแล้วเคลื่อนย้ายไปที่จุดอำพราง เนื่องจากผู้ตายร่างเล็กและผู้ต้องหาเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์ร่างกายแข็งแรง ประกอบกับจังหวะที่กระทำความผิดมีแรงกระตุ้นให้นำร่างไปคนเดียวได้ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็ต้องพิสูจน์ถึงพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิดใกล้เคียงต่อไป อีกทั้งเชื่อว่าจุดที่เผาอำพราง ผู้ต้องหาเคยเดินทางมาสถานที่แห่งนี้แล้วน่าจะมีความชำนาญในเส้นทาง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้