เปิดข้อต่อสู้ของ ลุงพล ในคดีน้องชมพู่ มองการพิสูจน์หลักฐานเส้นผมนั้น อาจจะสาวถึงแค่ป้าแต๋น ไม่ใช่ลุงพล และไม่มีใครเป็นพยานที่ยืนยันได้ว่าลุงพลฆ่าน้องชมพู่ ไม่เช่นนั้นก็โดนข้อหาเจตนาฆ่าไปแล้ว
อ่านเพิ่มเติม ไขปริศนา วิธีคลี่คลายคดีน้องชมพู่ เส้นขนไร้รากกับเทคโนโลยี มัดลุงพลดิ้นไม่หลุด
ล่าสุด ข่าว 3 มิติ รายงานว่า ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งเป็นทนายความของลุงพล ได้ยืนยันว่า การอนุมัติหมายจับนั้น ไม่มีทั้งพยานและหลักฐานที่จะสามารถเชื่อมโยงถึงลุงพล เพราะเส้นผมที่ตัดนั้น เป็นเส้นผมของน้องชมพู่ เมื่อผ่านกระบวนการพิสูจน์แล้ว จะสามารถสืบหาโดยการไล่เรียงไปถึงญาติฝั่งผู้หญิงของน้องชมพู่ ซึ่งอาจจะเป็นป้าแต๋น ภรรยาของลุงพล จนทำให้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลุงพล
นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาที่ว่า "กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม" ถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่น้ำหนักเบามาก ตอนที่น้องชมพู่เสียชีวิต น้องได้เสียชีวิตบนเขา ยากที่จะมีคนเห็น ไม่เช่นนั้น ลุงพลก็คงถูกแจ้งข้อหาเจตนาฆ่าไปแล้ว หากข้อกล่าวหานี้ถูกตั้งให้กับคนอื่นที่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก ก็คงเกิดการตั้งคำถามไปแล้ว
ทั้งนี้ ทนายษิทราจะเข้าพบกับ นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากมองว่า การออกหมายจับขาดน้ำหนัก และอาจจะไม่ชอบธรรม และอาจเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาชี้แจงในเรื่องการออกหมายจับในครั้งนี้ นอกจากนี้ จากกระแสข่าวที่ว่า ผบ.ตร. ไม่รับมอบตัวลุงพลนั้น ในความเป็นจริง หมายจับใช้ได้ทั่วราชอาณาจักร และถ้า ผบ.ตร. บอกว่าไม่รับ ก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ ทนายษิทรา ได้ยื่นขอประกันตัวลุงพลไปแล้ว แต่ถูกปฏิเสธในชั้นสอบสวน และในวันที่ 4 มิถุนายน และจะมีการยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล
ภาพจาก INN
ภาพจาก INN
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าว 3 มิติ
ภาพจาก INN
จากกรณีที่ตำรวจจับกุม ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา จากคดีน้องชมพู่ พร้อมกับมีการตั้งข้อหา 3 ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน, กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม โดยมีหลักฐานคือ เส้นผม 36 เส้นของน้องชมพู่ และเส้นขนไร้รากอีก 3 เส้น ที่เมื่อผ่านกรรมวิธีแล้ว ก็กลายมาเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่มัดตัวลุงพล อ่านเพิ่มเติม ไขปริศนา วิธีคลี่คลายคดีน้องชมพู่ เส้นขนไร้รากกับเทคโนโลยี มัดลุงพลดิ้นไม่หลุด
ล่าสุด ข่าว 3 มิติ รายงานว่า ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งเป็นทนายความของลุงพล ได้ยืนยันว่า การอนุมัติหมายจับนั้น ไม่มีทั้งพยานและหลักฐานที่จะสามารถเชื่อมโยงถึงลุงพล เพราะเส้นผมที่ตัดนั้น เป็นเส้นผมของน้องชมพู่ เมื่อผ่านกระบวนการพิสูจน์แล้ว จะสามารถสืบหาโดยการไล่เรียงไปถึงญาติฝั่งผู้หญิงของน้องชมพู่ ซึ่งอาจจะเป็นป้าแต๋น ภรรยาของลุงพล จนทำให้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลุงพล
ภาพจาก INN
ส่วนเรื่องที่บอกว่า การตัดผมน้องชมพู่เป็นเรื่องไสยศาสตร์ ถือเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลนอกจากนี้ ข้อกล่าวหาที่ว่า "กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม" ถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่น้ำหนักเบามาก ตอนที่น้องชมพู่เสียชีวิต น้องได้เสียชีวิตบนเขา ยากที่จะมีคนเห็น ไม่เช่นนั้น ลุงพลก็คงถูกแจ้งข้อหาเจตนาฆ่าไปแล้ว หากข้อกล่าวหานี้ถูกตั้งให้กับคนอื่นที่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก ก็คงเกิดการตั้งคำถามไปแล้ว
ทั้งนี้ ทนายษิทรา ได้ยื่นขอประกันตัวลุงพลไปแล้ว แต่ถูกปฏิเสธในชั้นสอบสวน และในวันที่ 4 มิถุนายน และจะมีการยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล
ภาพจาก INN
ภาพจาก INN