สรุปดราม่า เด็กพิงตุ๊กตาเทเลทับบีส์ 2.3 แสน ล้มแตก เรียกค่าเสียหาย
แต่ทัวร์ลงทางร้าน มองจงใจหลอกคนให้มาชน ตั้งของแพง แต่ไม่มีการป้องกัน
สุดท้ายต้องยอมคืนเงิน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jerry Yuen
กลายเป็นดราม่าร้อน ๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ของจีน
หลังปรากฏภาพของเด็กชายที่พิงตุ๊กตาเทเลทับบีส์ มูลค่า 52,800
ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 230,000 บาท) ล้มแตกกระจาย ภายในร้านของเล่น KK Plus
ที่ห้างสรรพสินค้าในฮ่องกง ซึ่งแม่เด็กยอมชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 33,600
ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 146,000 บาท)
หลังพนักงานปรี่เข้ามาโทษว่าเด็กเตะตุ๊กตาล้ม
แต่ปรากฏว่าต่อมามีการปล่อยคลิป เผยให้เห็นว่าตุ๊กตาตั้งอยู่กลางร้านโดยไม่มีการจัดการเรื่องความปลอดภัย เด็กสามารถชนล้มได้ง่าย ๆ ทำให้แม่เด็กรวมถึงชาวเน็ต มองว่าทางร้านจงใจวางสินค้าลักษณะนี้ เพื่อหวังให้มีคนมาชนล้มแล้วเรียกค่าเสียหายแพง ๆ หรือไม่
อ่านข่าว : แม่เครียด เจ้าหนูเข้าร้านของเล่น พิงตุ๊กตาเทเลทับบีส์ 2.3 แสน ล้มกระจาย ชดใช้อ่วม
แต่ปรากฏว่าต่อมามีการปล่อยคลิป เผยให้เห็นว่าตุ๊กตาตั้งอยู่กลางร้านโดยไม่มีการจัดการเรื่องความปลอดภัย เด็กสามารถชนล้มได้ง่าย ๆ ทำให้แม่เด็กรวมถึงชาวเน็ต มองว่าทางร้านจงใจวางสินค้าลักษณะนี้ เพื่อหวังให้มีคนมาชนล้มแล้วเรียกค่าเสียหายแพง ๆ หรือไม่
อ่านข่าว : แม่เครียด เจ้าหนูเข้าร้านของเล่น พิงตุ๊กตาเทเลทับบีส์ 2.3 แสน ล้มกระจาย ชดใช้อ่วม
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดเป็นกระแสดราม่าขึ้นมา
แม้จะมีคนมองว่าทางแม่เด็กก็เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ดูลูก จนลูกไปพิงตุ๊กตาล้ม
แต่ก็มีกระแสโจมตีทางร้านที่คล้ายจะตั้งใจหลอกคนให้มาชนตุ๊กตา
และเรียกเก็บค่าโง่ราคาแพง
แถมยังมีคนแฉด้วยว่าหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก
ต้นเรื่อง พนักงานร้านกล่าวหา เด็กจงใจเตะตุ๊กตาราคาเป็นแสน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jerry Yuen
ตอนนั้นพนักงานรีบเข้ามาบอกเขากับภรรยา ว่าเห็นลูกชายเตะตุ๊กตา และเรียกร้องให้จ่ายค่าเสียหาย ทางครอบครัวจึงยอมจ่ายเงินไปเพราะเชื่อว่าเป็นความผิดของเด็ก แต่หลังจากได้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิดที่แชร์กันในโซเชียล เขาจึงรู้ว่าบางทีลูกชายอาจถูกกล่าวหาอย่างไม่ถูกต้อง
"เขาพยายามเลี่ยงไม่ให้ชนกับคนอื่น และไปพิงตุ๊กตาเบา ๆ" พ่อเด็ก กล่าว
คลิปเผยความจริง ร้านโดนทัวร์ลง ยิ่งแจงยิ่งบ้ง
เมื่อภาพจากคลิปกลายเป็นไวรัล ทำให้สังคมพากันวิจารณ์ทางร้านที่จงใจหลอกเอาเงินจากครอบครัวเด็ก หลาย ๆ คนตั้งคำถามว่า ทำไมทางร้านจึงนำตุ๊กตาราคาแพงมาตั้งไว้เช่นนั้น แทนที่จะจัดแสดงในตู้กระจกเพื่อความปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้นทางครอบครัวเด็กก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน เพราะพวกเขาควรใส่ใจดูแลลูกให้มากกว่านี้
คอมเมนต์หนึ่งระบุว่า "พ่อแม่ควรดูแลเด็ก แต่ทางร้านควรรับผิดชอบด้วย พวกเขาเอาของมีค่ามาจัดแสดงในสถานที่ที่มีคนแออัด โดยไม่ได้มีอะไรกั้นหรือปกป้องของ ทำให้ลูกค้าต้องแบกรับความผิดของทางร้าน นี่ไม่ต่างจากร้านเถื่อนเลย"
ในขณะที่ KK Plus ได้ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องหลังกล่าว หลังเจอกระแสทัวร์ลงจากชาวโซเชียล อ้างว่าตุ๊กตาเทเลทับบีส์ตัวนี้ถูกวางอยู่ในจุดดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งก็ไม่เคยสร้างปัญหาใด ๆ ให้ลูกค้ามาก่อน และโทษว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสกดดันจากสังคมโดยใช่เหตุ ต่อทั้ง 2 ฝ่าย
แต่แถลงการณ์ดังกล่าวกลับเจอกระแสต่อต้านหนักกว่าเดิม คนยังโทษร้านว่าจงใจวางกับดักลูกค้า มีคนเข้ามากดโกรธในโพสต์ดังกล่าวกว่า 20,000 คน โดยชาวเน็ตเชื่อว่าจริง ๆ ทางร้านควรจะคืนเงินค่าเสียหายแก่ครอบครัวของเด็กไปซะ
อย่างไรก็ตาม พบว่าต่อมาโพสต์ดังกล่าวได้ถูกลบไป รวมถึงมีคนออกมาแฉว่าจริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่ตุ๊กตาตัวแรกที่แตก แต่เป็นตัวที่ 4 แล้ว ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งทางร้านชี้แจงไว้
ต้านกระแสไม่ไหว สุดท้ายต้องยอมคืนเงิน - ลงโทษ พนง.
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jerry Yuen
ขณะที่ผู้จัดการร้าน KK Plus ยอมรับว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้มีวิธีป้องกันที่จำเป็นมาก่อน ซึ่งจริง ๆ ต้องเป็นความรับผิดชอบของร้านในการป้องกันสิ่งของขนาดใหญ่ที่นำมาจัดแสดง ขณะนี้ทางร้านได้ย้ายตุ๊กตาที่มีความสูงมากกว่า 1 เมตร ออกไปแล้ว และให้พนักงานคนที่ถูกวิจารณ์เข้ารับการอบรมใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องที่มีคนชี้ว่า เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้วนั้น ทางผู้จัดการร้านไม่ขอแสดงความคิดเห็น
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP, The Standard, ebc.net.tw